โบราณาจารย์จึงได้สร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องขึ้นมา เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้มีกำลังใจยึดเกาะในพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ
พุทธานุสติ ก็คือวัตถุมงคลมีรูปพระพุทธอยู่ ธัมมานุสติ คือข้อธรรมคำสอนที่กำกับเอาไว้กับวัตถุมงคลนั้นว่า ให้เว้นอะไรบ้าง และทำอะไรได้บ้าง สังฆานุสติ คือครูบาอาจารย์ผู้สร้างนั้นเป็นพระสงฆ์
ถ้าบอกว่าเป็นไสยศาสตร์ก็ใช่ แม้แต่กระผม/อาตมภาพเอง ร่ำเรียนศึกษามามากมายมหาศาล พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงก็ยังบอกกล่าวว่า "สิ่งที่ข้าสอนแกไป คนส่วนหนึ่งบอกว่าเป็นไสยศาสตร์ นั่นเกิดจากความโง่ของคนทั้งหลายเหล่านั้น ที่ไม่รู้ว่าเมื่อเราฝึกฝนกำลังใจเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ครูบาอาจารย์ก็จะปรับให้กลับคืนมาสู่ฝั่งพุทธศาสตร์เอง" ก็แปลว่าคนที่กล่าวประเภทนั้นโง่สองชั้น..! ก็คือชั้นแรกไม่รู้เท่าทัน ชั้นที่สองฝืนความเป็นจริงของทางโลก
เพียงแต่ว่าญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากว่ายึดในวัตถุมงคลอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ขอให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรมให้เป็นปกติ สิ่งนี้จะเป็นคุณงามความดีที่คุ้มตัวเราให้ปลอดภัยด้วย และเสริมอานุภาพของวัตถุมงคลให้ดียิ่งขึ้นไปด้วย
เราจะเห็นว่าวัตถุมงคลแต่ละอย่างจะมีพระคาถากำกับอยู่ ให้พวกเราท่องบ่นภาวนา หรือว่าอาราธนาเป็นปกติ นั่นคือการบังคับว่าเราต้องมีการภาวนาที่เป็นจิตสิกขา มีข้อห้ามที่เปรียบเสมือนสีลสิกขา ก็เหลือแค่ปัญญาช่วงสุดท้าย ว่าเราทำอย่างไรที่จะยึดเกาะในคุณพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง โดยไม่ได้ยึดอยู่ที่วัตถุ
แบบเดียวกับที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกแล้วว่า สิ่งที่สอนมาคนจำนวนหนึ่งบอกว่าเป็นไสยศาสตร์ แต่ท้ายสุดท่านสามารถปรับเข้ามาเป็นพุทธศาสตร์ได้ อาศัยพื้นฐานของการที่ภาวนาพระคาถาต่าง ๆ มาใช้ในการปฏิบัติธรรมแทน กรรมฐานทั้ง ๔๐ กองก็จะไม่ใช่ของยาก เพราะว่าใช้กำลังใจเท่ากัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2022 เมื่อ 03:02
|