ครูพระสอนศีลธรรมแต่ละท่าน กว่าจะเข้าไปสอนในโรงเรียนได้นี่ แทบต้องกราบมือกราบตีนผู้อำนวยการถึงจะได้เข้าไปสอน แล้วชั่วโมงที่ให้ก็มีน้อยมาก ต่อให้มีเครื่องไม้เครื่องมือดีเลิศ อย่างเช่นว่ามีโน้ตบุ๊ก สามารถที่จะทำพาวเวอร์พ้อยท์ สามารถที่จะเปิดวีดีโอประกอบการสอน เพื่อให้เด็กรู้เข้าใจและสนุกสนาน
แต่โรงเรียนไม่มีเครื่องมือเครื่องไม้รองรับ ไม่มีจอโทรทัศน์ ไม่มีจอโปรเจ็คเตอร์ ไม่มีเครื่องฉาย แล้วครูพระสอนศีลธรรมต้องเก่งขนาดไหน ? เวลาก็ไม่มี เครื่องมือก็ไม่ให้ งบประมาณก็ไม่มี แล้วจะไปสอนเด็กให้ออกมามีความรู้ความสามารถ ?
ดังนั้น..ถ้าอาตมภาพเข้าไปในวงสัมมนาที่ไหน ส่วนใหญ่ก็ตีเขากระจายอยู่ตรงนั้น คือจำเป็นต้องทุบให้ได้สติ บางคนก็ว่าอาตมภาพเป็นคนหัวรุนแรง..ไม่ใช่ แบบเดียวกับที่คณะกรรมการมาตรวจประเมินโรงเรียน แล้วในระหว่างที่ประชุมกันก็บ่นว่า "โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิได้คะแนนภาษาอังกฤษน้อย ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน ท่านผู้อำนวยการ ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องพิจารณาดำเนินการเสียใหม่"
อาตมภาพยกมือขอพูดหน่อยว่า "ท่านคณะกรรมการเอาเกณฑ์อะไรมาประเมินเด็กของอาตมา ? เป็นเกณฑ์เดียวกับเด็กกรุงเทพฯ ใช่ไหม ? แล้วคณะกรรมการยอมรับไหมว่าไอ้เกณฑ์ประเมินนี้ก็ขโมยต่างประเทศเขามาด้วย ถ้าหากว่าบอกว่าเด็กของอาตมภาพไม่เก่งภาษาอังกฤษ ลองเอาเด็กกรุงเทพฯ ที่เก่งภาษาอังกฤษของโยมมาสิ มาพูดภาษามอญแข่งกับเด็กของอาตมา ใครจะเก่งกว่า ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2021 เมื่อ 03:31
|