ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 12-11-2012, 07:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,982 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราไม่ประมาท ไม่ทราบว่าตนเองจะถึงความตายเมื่อไร เราก็ต้องเร่งกอบโกยความดีใส่ตัวของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทำหน้าที่ของเราวันนี้ให้ดีที่สุด คิดอยู่เสมอว่าพรุ่งนี้ไม่มีสำหรับเรา บุคคลที่มีวันนี้วันเดียวหรือมีเวลาอยู่แค่ชั่วลมหายใจเดียว ย่อมต้องทำหน้าที่เฉพาะหน้าของตนเองอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะการสั่งสมความดีเพื่อที่จะก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ในเมื่อเราเป็นผู้ที่ไม่ประมาทก็ย่อมปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญาอย่างเต็มที่ ในเรื่องของศีลนั้นนอกจากจะไม่ละเมิดศีลด้วยตนเองแล้ว ยังไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลด้วย

ในเรื่องของสมาธินั้นให้พยายามกำหนดรู้ลมหายใจให้ได้ทุกเวลา เพราะถ้าสติของเราขาดจากลมหายใจ สมาธิก็จะไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นกิเลสต่าง ๆ ก็จะแทรกเข้ามาได้ง่าย และจะพาเราไหลตามกระแสไป กลายเป็นไม่สามารถที่จะสร้างความดีได้อย่างที่ต้องการ

ในส่วนของปัญญานั้น อย่างต่ำที่สุดต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย เมื่อรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ก็ให้ตั้งเป้าไว้ว่าตายแล้วเราจะไปไหน ? ถ้าตอบตนเองว่าตายแล้วเราจะไปพระนิพพาน การที่เราจะไปพระนิพพานได้มีกติกาอย่างไรเราก็ต้องทำให้เต็มที่ ต่อให้ไม่สามารถไปถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้ เราก็ต้องไปให้ได้ไกลที่สุด ให้สูงที่สุดเท่าที่เราจะพึงทำได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2012 เมื่อ 09:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา