ถาม : ฟังมาว่าจิตเป็นของเรา ได้ยินมาว่าจิตเป็นอนัตตาด้วย จริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าคุณทำได้แค่ไหน ถ้าระดับปุถุชนทั่วไป ก็ยังเป็นของเรา แต่ถ้าเป็นอริยเจ้าก็ค่อย ๆ ลดละไปเรื่อย ๆ จนท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเป็นของเรา
ถาม : ก็คือไม่มีอะไรเป็นของเรา ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับเรา ว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าฝีมือห่วยแตกก็ยังยึดว่าเป็นของเรา ถ้าดีขึ้นมาหน่อยก็ลดละไปตามลำดับ
ถาม : แสดงว่าหลวงพ่อบอกว่าจิตของปุถุชนเป็นอัตตา ?
ตอบ : ไม่ได้บอก แต่คุณไปยึดของคุณเอง
ถาม : ยึดของเราเอง แสดงว่าจริง ๆ แล้วเป็นอนัตตา ?
ตอบ : จิตมันก็คือจิต เป็นตัวรู้เฉย ๆ ส่วนจะยึดหรือไม่ยึด อยู่ที่กำลังใจของคุณที่ทำได้
ถาม : แล้วที่เขาบอกว่า...(ได้ยินไม่ชัด)
ตอบ : นั่นเป็นแค่อาการทำงานของจิต
ถาม : แสดงว่าจิตไม่ใช่จิตตัวนี้แค่ตัวเดียว แต่เปลี่ยนไปเรื่อยในแต่ละวัน ?
ตอบ : ขณะที่เสวยอารมณ์ก็เปลี่ยนลักษณะไปเรื่อย
ถาม : ดูเวทนาเปลี่ยนไป จิตก็เปลี่ยนไป ?
ตอบ : บางปัญหาคุณถามไป ก็ไม่เจ็บไม่คันอะไร
ถาม : สำคัญตรงที่สักกายทิฏฐิ ถ้าเรายึดว่าจิตเป็นอัตตา ก็จะกลายเป็นว่าเราจะวิปัสสนาไม่ได้ ?
ตอบ : คุณจะยึดว่าเป็นอัตตาหรืออนัตตาก็เป็นการยึดทั้งคู่ ท้ายสุดกระทั่งอนัตตามก็ต้องปล่อย เพราะฉะนั้น..เสียเวลาที่จะมาพูด เพราะว่าคุณยังทำไม่ถึง..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:31
|