ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 12-06-2021, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ท่านกล่าวเอาไว้ว่า การบรรลุมรรคผลไม่ได้จำกัดที่เพศเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ว่าวัฒนธรรมองค์กร ขนบธรรมเนียบประเพณีของเราจำกัดไว้ ในเมื่อการบรรลุมรรคผลไม่ได้จำกัดที่เพศ ทำไมถึงต้องถือเพศภาวะภิกษุหรือภิกษุณีเท่านั้น ?

อาตมาถึงได้กล่าวว่า ถ้าหากว่าต้องการเอาชนะกันทางโลกจะไม่คุยด้วย แต่ถ้าคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ทุกท่านตรองดูก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพียงแต่ว่าทิฐิมานะอาจจะท่วมหัว ยอมรับไม่ได้ ก็พยายามที่จะเถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปเรื่อย

ทางวัดท่าขนุนของเราก็ไม่ได้ห้ามเพศที่ ๓ ว่าจะเข้ามาบวชไม่ได้ แต่มีข้อแม้ชัดเจนว่า บวชเข้ามาแล้วต้องเก็บอาการให้อยู่ เก็บอาการไม่อยู่วันไหน ถ้าไม่ยอมสึกก็ไล่ออก กฎเกณฑ์กติกานี้ เชื่อว่าท่านทั้งหลายคงจะพอเข้าใจ เพราะว่าถ้าอยู่ไปแล้ว ท่านทำให้ส่วนรวมเสียหาย โดยเฉพาะทำให้พระพุทธศาสนาเสียหาย คนเห็นแล้วเสื่อมศรัทธา อย่างที่ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่าง ๆ ลงอยู่ในสื่อโซเชียลจำนวนมากมายมหาศาล ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่พระภิกษุสามเณรที่เป็นเพศที่ ๓ ไปก่อเรื่องและกระทำเอาไว้เสียส่วนใหญ่

ในเมื่ออยู่แล้ว ไม่สามารถทำให้บุคคลที่ยังไม่เลื่อมใส เข้ามาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ไม่สามารถทำให้บุคคลที่เลื่อมใสแล้ว เลื่อมใสยิ่งๆ ขึ้นไป ท่านอยู่ต่อไปก็มีแต่จะกลายเป็นตัวถ่วง หรือสร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2021 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา