ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-03-2023, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,826 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อทุกคนลงมาพร้อมเพรียงกันแล้ว การปฏิบัติธรรมช่วงตี ๔ นั้น กระผม/อาตมภาพจะเป็นผู้นำเอง พระภิกษุสามเณร ตลอดจนแม่ชีและฆราวาสที่เคยปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนก็จะทราบดีว่า กระผม/อาตมภาพจะนำปฏิบัติแบบไหน ซึ่งการนำปฏิบัติในลักษณะนั้น จะทำให้ทุกคนจิตใจสงบเร็วมาก เมื่อจิตใจทรงตัว ตั้งมั่น สงบเยือกเย็นแล้ว การปฏิบัติธรรมช่วงต่อไปทั้งวันก็จะไม่มีการต่อต้าน เหตุเพราะว่าในเมื่อใจสงบ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกิด แรงกระทบไม่มี ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่ายไปแล้ว

เพียงแต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านจะต้องไม่ลืมว่าการนำปฏิบัติธรรมของท่านนั้น ต้องประกอบไปด้วยสิ่งสำคัญสองประการ ประการแรกก็คือ สามารถดึงความสนใจของเขาทั้งหลายเหล่านั้นให้คล้อยตามแนวการปฏิบัติของเราได้ ประการที่สองก็คือ ความสามารถในการนำปฏิบัติของท่านต้องมีอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกเอาไว้ตั้งแต่สมัยกระผม/อาตมภาพยังเป็นฆราวาสนำในการสอนมโนมยิทธิว่า ครูบาอาจารย์ที่สอนกรรมฐานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้ว่าลูกศิษย์กำลังคิดอะไร กำลังทำอะไร ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะนำเขาได้ตรงกับความต้องการได้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านจะเลียนแบบและทำตาม ก็ต้องซักซ้อมกำลังใจของตน การซักซ้อมกำลังใจของตนนั้น ก็คือการซักซ้อมในเจโตปริยญาณ

เจโตปริยญาณคือการรู้ใจนั้น การรู้ใจคนอื่นมีแต่เสมอตัวและขาดทุน คำว่าเสมอตัวก็คือ เราสามารถรู้ใจเขาแล้วรักษาอารมณ์ของตนเองได้ แต่ถ้าขาดทุนก็คือ ถ้ารู้ใจว่าเขาคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีกับเรา แล้วเราไปโกรธไปเกลียดเขา ก็จะเป็นการขาดทุน

ดังนั้น..ในเรื่องของการใช้เจโตปริยญาณนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้ใจตัวเอง เราต้องดูว่ากำลังใจของเราตอนนี้มีความดีอยู่หรือไม่ ? ถ้ายังไม่มีก็สร้างความดีนั้นขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้ว ก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ตอนนี้กำลังใจของเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ามีอยู่ ก็เร่งรีบขับไล่ออกไปจากใจ แล้วก็ระมัดระวังไว้ อย่าให้ความชั่วทั้งหลายเหล่านั้นเข้ามาอีก

ถ้าท่านทั้งหลายซักซ้อมกระทำในลักษณะอย่างนี้บ่อย ๆ ก็จะมีความเคยชินกับการรู้ใจตนเอง ถ้าท่านสามารถรู้ใจตนเองได้ในขอบเขตระดับไหน ท่านก็จะสามารถรู้ใจคนอื่นได้ในขอบเขตระดับนั้น แม้กระทั่งบุคคลที่อยู่ในระดับสูงกว่า ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เจตนาปิด ท่านที่มีเจโตปริยญาณคล่องตัวก็สามารถที่จะรู้ได้เช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2023 เมื่อ 00:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา