ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 10-05-2021, 22:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกิเลสในใจของเราครับ คนเรากำลังใจมีแค่ไหน ก็คิดแค่นั้น พูดแค่นั้น ทำแค่นั้น ถ้ายังตำหนิติเตียนผู้อื่น ก็แปลว่ากิเลสตัวเองยังท่วมหัว เพราะยังเห็นว่ากูดีกว่า ต่อให้ไม่พูดคำว่า "ดีกว่า" แม้แต่คำเดียว ก็ยังคงเป็น "กูดีกว่า" ไม่อย่างนั้นจะไม่เห็นว่าคนอื่นผิดอย่างนั้น คนอื่นเลวอย่างนี้..!

ซึ่งพวกท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือฆราวาส ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักปฏิบัติธรรม ต้องรู้เท่าทันกิเลส อย่าให้กิเลสชักจูงเราไปนาน ไม่อย่างนั้นแล้ว หนทางในวัฏสงสารนี้จะยาวไกลยิ่งนัก

ถามว่าทำไมผมรู้ ? เพราะว่าผมเป็นมาก่อน สมัยก่อนผมแบกกิเลสเต็มหัวเลยครับ แม้กระทั่งคำว่า "หลวงพ่อ" นอกจากหลวงพ่อฤๅษีฯ ผมเรียกคนอื่นไม่ได้ ท่านอาจจะคิดว่าเป็นการเคารพครูบาอาจารย์ แต่ผมพิจารณาแล้วว่า เป็นตัวกูของกูเต็ม ๆ เลย เป็นทั้งสักกายทิฐิ เป็นทั้งอติมานะ

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเรายังทำไม่ถึง กระผมหรืออาตมภาพพูดไป ท่านทั้งหลายก็อาจจะยังไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง แต่ถ้าหากว่าทำถึงเมื่อไร จะอ๋อ..เข้าใจทันทีว่า สิ่งที่ผมพูดนี้หมายถึงอะไร เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายต้องเตือนตนเองอยู่เสมอ อัตตนา โจทยัตตานัง เพราะว่าคนที่รักเราจริงหายาก คนที่รักเราจริงจนกล้าตักเตือนเรามีน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วเขารักตัวเอง กลัวว่าจะกระทบกระทั่งกับเรา กลัวว่าเราจะไม่พอใจ กลัวว่าพูดไปแล้วจะกลายเป็นศัตรูกับเรา เขาก็จะไม่พูด จะไม่เตือน

ดังนั้น..ท่านก็จะไม่มีกระจกที่จะสะท้อนเห็นความประพฤติที่ผิดพลาดของตนเอง เพราะว่าปรโตโฆสะ คือเสียงสะท้อนจากภายนอกไม่มี ท่านต้องใช้ปัญญาตะเกียกตะกายค้นหาเอาเองว่าตัวเองผิดตรงไหน แล้วค่อยมาแก้ไข ซึ่งบางทีก็กลายเป็นเนิ่นช้า

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า บางทีกิเลสเรายังท่วมหัวอยู่ พอคนอื่นเตือนแล้วเรารับไม่ได้ ป้องกันตัวเองทันทีด้วยการเถียง อย่าบอกว่าคุณอธิบาย ไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายครับ ถ้าเรารู้ว่าเราผิดก็ "ครับ" แล้วแก้ไข...จบเลย เสียเวลาไปอธิบาย เพราะว่าเรารักหน้าตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเราทำผิดทำพลาด นั่นคือสักกายทิฐิครับ ตัวกูของกูเต็ม ๆ เลย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ก็คือความคิดที่ว่า "กูดีกว่า" หรือ "กูดีแล้ว" ถ้าลักษณะอย่างนี้ท่านจะเป็นน้ำล้นแก้ว อะไรก็เติมไม่ลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2021 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา