ดูแบบคำตอบเดียว
  #23  
เก่า 08-03-2021, 17:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,230 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราใจไม่ค่อยจะมั่นคง ขาดการฝึกฝนสมาธิเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ก็คือมักจะถนัดกันอยู่แค่การให้ทาน ซึ่งจะว่าไปแล้ว การให้ทานนั้นเป็นการสร้างบุญในระดับที่ต่ำที่สุด ต่อให้เป็นสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทาน ก็ยังเป็นบุญที่ต่ำอยู่ดี เพราะว่าบุญที่สูงกว่านั้นยังมีอยู่ คือ ยังมีการรักษาศีล แล้วก็เจริญภาวนา

แต่คราวนี้ด้วยความที่ญาติโยมถนัดในการให้ทาน ก็ต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ เพราะว่าต้องให้จนเคยชิน สภาพจิตยึดเกาะกับทาน อย่างเช่นว่าใส่บาตรทุกวัน ถ้าไม่ได้ใส่บาตรก็รู้สึกคิดถึง ต้องการที่จะทำให้ได้ เป็นต้น

คราวนี้ในส่วนของการรักษาศีลและเจริญภาวนา ที่มีอานิสงส์มากกว่า เราก็มักจะได้แค่ทานกับศีล ในส่วนของภาวนาที่มีคุณประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะในส่วนของการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ญาติโยมยังขาดการกระทำที่จริงจัง โดยเฉพาะขาดการช่างสังเกต

ถ้าภาวนาพระคาถาเงินล้านอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันถึงสองเดือนแล้วไม่เกิดผล หรือว่าผลเกิดน้อย ก็ต้องรู้จักสังเกตว่าเราผิดพลาดตรงไหน เราภาวนาน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ? หรือเราภาวนาเพราะความอยากรวย ซึ่งเป็นกำลังใจที่ไม่ได้ปล่อยวางอย่างแท้จริง ก็เลยทำให้ความโลภมาบังหน้า ผลของพระคาถาที่จะเกิดขึ้นจึงมีน้อยไปด้วย

ในเมื่อขาดการภาวนา หรือมีการภาวนาแต่ไม่ช่างสังเกต โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะเข้าถึงคุณความดีในระดับที่มั่นคงจริง ๆ ก็เป็นไปโดยยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2021 เมื่อ 21:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา