พระอาจารย์กล่าวกับโยม “ค่อย ๆ เดินนะจ๊ะ อายุมากขึ้นก็ต้องระวังมากขึ้น ช่วงเดือนที่ผ่านมาอาตมาตกบันได บันไดทางเดินกลับจากบิณฑบาต เพราะว่าฝนมักจะตกหนักตอนช่วงเช้าที่เดินบิณฑบาต สบงจีวรรัดตัวจนก้าวไม่ออก ขั้นบันไดเป็นขั้นใหญ่ แต่เท้าก้าวได้นิดเดียวเพราะว่าสบงรัดติดอยู่ ก็ร่วงเลย ...(หัวเราะ)...
ถึงได้เข้าใจว่า สมัยอยู่วัดท่าซุงอาตมาไม่เคยเรือล่ม แต่บรรดารุ่นพี่ ๆ ที่เรือล่มเขาแนะนำกันไว้ เขาบอกว่าเรือล่มเมื่อไรสลัดจีวรออกให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นจะโดนจีวรรัดจมน้ำตาย พอมาเจอกับตัวเองตอนฝนตกถึงได้รู้ จีวรดูดติดเนื้อ ก้าวขาไม่ออก แล้วถ้าอยู่ในน้ำก็ไม่สามารถที่จะเตะขาเพื่อว่ายน้ำได้ ...(หัวเราะ)...
พระเณรวัดท่าขนุนเคยชินกับการเดินตากฝนทุกเช้า ไม่ชินก็ต้องชิน เพราะว่าเจ้าอาวาสไม่ทิ้งการบิณฑบาต อายุก็มากกว่า ตำแหน่งก็สูงกว่า แถมยังป่วยตลอดด้วย คุณจะเอาข้ออ้างอะไรมา..! จะอ้างว่าแก่ก็แก่สู้เจ้าอาวาสไม่ได้ จะอ้างว่าป่วยก็ป่วยสู้เจ้าอาวาสไม่ได้ จะอ้างว่ามีหน้าที่การงาน เจ้าอาวาสก็มีมากกว่า จึงต้องไปตากฝนด้วยกันแต่โดยดี..!
ถึงเวลาโยมอายุมากก็ค่อย ๆ ลุก ค่อย ๆ นั่ง โดยเฉพาะการใส่รองเท้านี่แหละที่ต้องระวังสุด ๆ รองเท้าถุงเท้านี่เวลาเราเดินบันไดที่เป็นไม้กระดานจะลื่นมาก อาตมาเคยบอกพระเณรให้สังเกตว่า บ้านโยมบางหลังเราต้องขึ้นบันไดไป ๔-๕ ขั้นเพื่อที่จะรับบาตร คราวนี้บันไดก็ชัน ประกอบกับหน้าฝนบันไดเปียกก็ลื่นมาก เราต้องตั้งสติระมัดระวังสุดชีวิต ทำอย่างไรที่เวลาปกติเราจะตั้งสติให้ได้ระดับนั้น ถ้าเวลาปกติตั้งสติได้ในระดับที่ขึ้นลงบันไดชัน ๆ เปียก ๆ ลื่น ๆ ได้ ก็แปลว่าพอที่จะเอาตัวรอดได้ ไม่อย่างนั้นสติไม่พอ รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นก่อน ก็โดนลากไปไกลหลายกิโลเมตรแล้ว”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2020 เมื่อ 02:16
|