ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 24-08-2022, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,601 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทางด้านเขมรก็เหมือนกัน เขาถือว่าเคยยิ่งใหญ่มาก่อน พอไทยตั้งอาณาจักรสุโขทัยได้ ก็ตีกินพื้นที่ของเขมรไปมหาศาลเลย เพราะว่าสมัยนั้นเขาปกครองไปจนกระทั่งถึงสุโขทัย เท่ากับว่าเราไปแย่งชิงดินแดนของเขมรมา

กระผม/อาตมภาพไปเที่ยวเขมร เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเทพวงศ์ ท่านถึงขนาดออกปากว่า "ถ้าเป็นยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ผมจะไม่ต้อนรับท่านเลย ยังดีว่าเป็นยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีนโยบายเป็นมิตรกับเขมร"

คิดดูว่านั่นขนาดระดับสมเด็จพระสังฆราช ยังแบกกิเลสเอาไว้เต็มที่ขนาดนั้น ท่านพูดจาเสียงดัง โผงผาง ท่าทางโกรธเคืองมาก จนกระทั่งมัคคุเทศก์บอกว่า "กลับเถอะ..กลับเถอะ"
กระผม/อาตมภาพไม่กลับหรอก อย่างไรท่านก็ตัวเล็กกว่าตั้งเยอะ ทุบทีเดียวก็อยู่แล้ว..! เรื่องอะไรจะหนี ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน

กระผม/อาตมภาพถามว่า "แล้วหลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องที่รู้มาเป็นเรื่องจริง ?" ท่านบอกว่า "รู้สิ..ผมฟังข่าวอยู่ทุกวัน ดูโทรทัศน์ทุกวัน" ก็ยิ่งเจริญเข้าไปใหญ่..!

รัฐบาลไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเสื่อมความนิยมจากชาวบ้าน วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือหาเรื่องกับประเทศคู่แข่ง เพื่อที่จะได้รวมกำลังใจของชาวบ้านให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะฉะนั้น..ข่าวคราวที่ออกมาเป็นข่าวที่รัฐบาลอยากให้หลวงพ่อรู้ แต่ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง พูดง่าย ๆ ว่า ผมค่อย ๆ ใช้เหตุผลตะล่อม จนกระทั่งท่านหายโกรธไปเอง

เพราะฉะนั้น..."ไอ้ดราม่าออเจ้า" นี่ไม่ต้องสงสัย เป็นความเกลียดชังที่ฝังอยู่ในใจอย่างหนึ่ง แล้วก็เป็นความอิจฉาที่เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง ต้องบอกว่าเป็นกิเลสในใจนั่นแหละ ว่าทำไมบุพเพสันนิวาสของไทยได้รับความนิยมมาก แต่ของเขมรสร้างละครแล้วไม่ได้รับความนิยมแบบนี้

ก็พอ ๆ กับที่เวียดนามเห็นไทยเป็นคู่แข่งตลอดมา โดยเฉพาะ "ดราม่า" วอลเล่ย์บอลหญิงใน VNL league ก็เพราะว่าสมัยรัชกาลที่ ๓ เจ้าพระยาบดินทรเดชาหวดญวนเสียเละเทะ ออกรบประเทศญวน ๑๒ ปีไม่กลับบ้าน ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ต้องมีพระราชสาส์นไปว่า "เจ้าคุณ..พักศึกกลับบ้านบ้างเถอะ ลูกชายเกิดตอนเจ้าคุณไป ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อเลย"

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเรามาคิดถึงใจคนไทยส่วนหนึ่งที่ฝังใจเกลียดพม่า คนญวน คนลาว คนเขมร เขาก็จะฝังใจเกลียดไทยเหมือนกัน เพราะว่าเราเคยไปตีบ้านตีเมืองเขา ประวัติศาสตร์ก็ย่อมให้เขียนว่าฝ่ายตัวเองเป็นพระเอก อีกฝ่ายเป็นผู้ร้ายเป็นปกติ

แต่ถ้าเรานึกถึงค่านิยมในสมัยนั้นอย่างหนึ่ง แล้วความเป็นหอกข้างแคร่อาจจะก่อความเดือดร้อนให้อีกอย่างหนึ่ง ก็จำเป็นที่จะต้องลงไม้ลงมือกัน แต่คนมักจะไม่ได้คิดถึงตรงนี้ พูดง่าย ๆ ก็คือไปยึดติดเรื่องของอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหวังเลยว่าจะหลุดพ้นได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา