ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 03-12-2021, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,912 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอโอกาสท่านพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. และพระเถรานุเถระที่เป็นนิสิตทุกรูป ตลอดจนกระทั่งเจริญพรญาติโยมที่เข้ามาร่วมฟังอยู่ด้วย

วิชาที่ท่านทั้งหลายเรียนอยู่นี้ จะว่าไปแล้วเป็นวิชาที่มีประโยชน์ที่สุดในความเป็นพระภิกษุสามเณรของเรา ก็คือวิชาวิสุทธิมรรคศึกษา ซึ่งตรงส่วนนี้ตัว
กระผม/อาตมภาพเอง ต้องบอกว่าอยู่กับตำราวิสุทธิมรรคมาตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี จนปีนี้ย่างเข้า ๖๓ ปีแล้ว เห็นประโยชน์อย่างมหาศาลของวิสุทธิมรรค เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายที่มีโอกาสเข้ามาศึกษาแล้ว จะได้เห็นประโยชน์ตรงส่วนนั้นด้วยหรือไม่ ? นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ

วิสุทธิมรรค แปลตรง ๆ ว่า หนทางที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์ พูดง่าย ๆ ก็คือ สามารถที่จะชำระใจของตนให้หมดกิเลส เข้าสู่พระนิพพานไปได้เลย เป็นตำราที่เรียกว่า ปกรณ์วิเสส ก็คือถ้าหากว่าในพระพุทธศาสนาของเรา ตำราต่าง ๆ นั้นเริ่มจากพระไตรปิฎก หลังจากนั้นที่ให้การอธิบายขยายความพระไตรปิฎกเรียกว่า อรรถกถา พอนาน ๆ ไปอรรถกถาก็เริ่มเลือนราง คนเข้าใจน้อยลง เพราะว่าไม่ได้อยู่ร่วมสมัยกัน

อย่างเช่น ถ้าหากว่าฝ่ายอรรถกถากล่าวถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งในยุคสมัยพุทธกาล แล้วคนทั่วไปเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่าเป็นใคร สถานที่แห่งนั้นเป็นอย่างไร บุคคลนั้นเป็นอย่างไร ก็จะมีการอธิบายอรรถกถาขึ้นมา เรียกว่า ฎีกา

พอนาน ๆ ไป ผ่านไปเป็น ๑๐๐ ปี ฎีกาก็เริ่มเลือนรางเหมือนกัน ก็ต้องมีการอธิบายฎีกาขึ้นมาอีก อย่างในส่วนที่พบมากที่สุดในฎีกาก็คือ คำว่า "คณาจารย์ฝ่ายโน้นกล่าวว่า"

คราวนี้คำว่า "คณาจารย์ฝ่ายโน้นกล่าวว่า" ในสมัยการแต่งฎีกานั้น รุ่งเรืองในยุคสมัยของศรีลังกา ก็คือถ้าไม่เป็นฝ่ายมหาวิหาร ก็เป็นฝ่ายอภัยคีรีวิหาร ซึ่งถ้าหากว่ากล่าวถึงลักษณะอย่างนั้น แค่ไม่ให้กระทบกระเทือนกัน พูดง่าย ๆ ก็คือ "พูดให้ชัดแต่เตะไม่ถึง" จะได้ฟ้องร้องกันไม่ได้ ก็ใช้คำว่า "คณาจารย์ฝ่ายโน้นกล่าวว่า" คนก็จะไม่เข้าใจ บรรดาอนุฎีกาจารย์ คือผู้อธิบายฎีกา ก็จะมาอธิบายเพิ่มเติมว่า "คำว่าคณาจารย์ฝ่ายโน้น" ในที่นี้ ในตรงนี้ หมายถึงใคร

คราวนี้พอไปถึงอนุฎีกาจารย์ พอนาน ๆ ไป เนื้อหาเริ่มเลือนราง คนทั่วไปที่ทันยุคทันสมัยก็จะมาอธิบายต่อ เขาเรียกว่า เกจิอาจารย์ คำว่าเกจิอาจารย์ในสมัยนี้ เกจิ แปลว่า ต่าง ๆ กันไป ก็คืออาจารย์ท่านใดก็ได้ที่มีความรู้มาอธิบาย เขาก็เรียกว่าเกจิอาจารย์ แต่คนในยุคสมัยนี้ คำว่าเกจิอาจารย์ไปแปลความว่าเป็นพระขลัง มีความรู้เกี่ยวกับไสยเวทย์วิทยาคมอะไรต่าง ๆ ไปโน่นเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2021 เมื่อ 03:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา