ดูแบบคำตอบเดียว
  #154  
เก่า 25-07-2019, 17:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,471 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“พระปิลินทวัจฉะเป็นพระมหาสาวกที่ได้รับเอตทัคคะทางด้านเป็นที่รักของเทวดา ไปไหนพรหมเทวดาห้อมล้อมกันเป็นร้อยเป็นพัน แต่ท่านอยู่ร่วมกับชาวบ้านเขาไม่ได้ เพราะชาวบ้านเขาว่าท่านพูดจาหยาบคาย ก็คือปกติท่านเรียกคนอื่นว่า “ไอ้ถ่อย” ถึงเวลาก็ “เฮ้ย..ไอ้ถ่อย เป็นอย่างไรบ้าง ?” เกิดจากการที่ท่านเคยเกิดเป็นพราหมณ์ต่อเนื่องมา ๕๐๐ ชาติ อยู่ในตระกูลพราหมณ์ที่ถือว่าสูงที่สุด แม้แต่พระมหากษัตริย์ยังต้องเคารพกราบไหว้ ก็เลยเห็นคนอื่นเป็นคนต่ำไปหมด

หรือก็เหมือนนกุลปิตา นกุลมาตา สองท่านเมื่อเจอพระพุทธเจ้า ตรงเข้าไปกอดเลย ถามว่า “ลูกไปไหนมา หายไปนานขนาดนี้ ?” ท่านเคยเกิดเป็นพ่อแม่ของพระพุทธเจ้าต่อเนื่องมา ๕๐๐ ชาติ คนอื่นเขาตกอกตกใจ พระพุทธเจ้าท่านเห็นเป็นเรื่องปกติ”


ถาม : ทำไมท่านถึงไม่ได้เป็นพุทธมารดาคะ ?
ตอบ : ชาติสุดท้ายต้องสร้างบารมีมาเกิดเป็นพุทธมารดาโดยเฉพาะ ถ้าสร้างไม่ถึงก็เป็นไม่ได้ พระพุทธมารดาเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก นอกจากมีเบญจกัลยาณีแล้วยังต้องประกอบไปด้วยอิตถีลักษณะที่งามสมบูรณ์อีก ๖๔ อย่าง ไม่สูงเกิน ไม่ต่ำเกิน ไม่อ้วนเกิน ไม่ผอมเกิน ไม่ขาวเกิน ไม่ดำเกิน สารพัดที่จะกำหนด ถามว่าทำไม ? อย่างเช่นว่า ถ้าช่วงตัวยาวเกิน ถึงเวลาพระโพธิสัตว์จะกินนมก็ต้องยืดคอ เดี๋ยวเด็กคอยาว ทำให้เสียพุทธลักษณะไป

ดังนั้น...ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะเกิดเป็นพุทธมารดา ก็ไปเป็นในชาติอื่นแทน นกุลปิตากับนกุลมาตาเป็นฆราวาสที่ได้รับเอตทัคคะทางเป็นผู้คุ้นเคยยิ่งของพระพุทธเจ้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา