“เมื่อสองวันที่ผ่านมา มีข่าวว่าคนอินเดียเป็นร้อยล้านกำลังอดน้ำ ประเทศอินเดียนั้นหาน้ำยากตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว บรรดากุมภทาสีก็คือ พวกทาสหญิงที่มีหน้าที่ตักน้ำ ไปหาน้ำเข้าบ้านอย่างเดียว เดินกันทีหนึ่งครึ่งค่อนวันกว่าจะถึงแหล่งน้ำ ตักแล้วก็เอาเทินหัวมา อาตมาไปเนปาลเห็นชาวบ้านไปรุมอยู่รอบบ่อ ๑๐–๒๐ คน น้ำก้นบ่อสูงประมาณครึ่งนิ้ว ไปยืนรอจนน้ำสูงพอที่จะถึงขอบถัง เวลาเอียงถังแล้วน้ำจะพอไหลเข้าถังได้ ตักขึ้นมาก็เทใส่คนโทน้ำ หม้อน้ำทองเหลืองทองแดงของตัวเอง รอตักไปเถอะ กว่าจะได้พอก็เป็นวัน..!
ท่านวิปัสสี เจ้าอาวาสวัดมุนิวิหารที่อาตมาเอากฐินปลดหนี้ไปให้ ท่านบอกว่าคนรวยของเนปาลนิยมให้ทานด้วยน้ำ พอถึงเวลาก็ซื้อน้ำมาเทลงในอ่างน้ำสาธารณะที่มีก๊อกอยู่ ถ้าใครโชคดีเจอคนรวยซื้อน้ำมาใส่ ก็ไปเปิดเก็บเข้าบ้านตัวเอง ถ้าช้าคนอื่นก็เอาไปหมด
จะว่าไปแล้ว น้ำจืดแต่ละปีที่เกิดจากฝนตกนั้นมหาศาล แต่ว่าการบริหารจัดการไม่ดี ทำให้ไม่สามารถที่จะเก็บกักเอาไว้ใช้งานได้จนครบรอบปี ใครมีที่มีทาง ถ้าจะทำแหล่งน้ำ ขอให้รู้ไว้เลยว่า แหล่งน้ำจะเล็กจะใหญ่ หน้ากว้างหน้าแคบแค่ไหนก็ตาม น้ำจะระเหยออกวันละ ๑ เซนติเมตรโดยประมาณ ถ้าจะทำแหล่งน้ำให้มีน้ำครบปี อย่างน้อยก็ต้อง ๓๖๕ เซนติเมตร หรือถ้าประมาทหน่อยว่ามีฤดูฝน ๓–๔ เดือน ก็เอาสัก ๓ เมตรก็ได้ อีก ๖๕ เซนติเมตรไม่ต้องไปคิด”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 10:34
|