ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 08-04-2022, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,219 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตอนช่วงนำสามเณรเจริญพระกรรมฐาน ก็ดีใจว่ามีบางรูปสามารถที่จะเห็นพระได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะว่าเห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้าอย่างเดียว ดูไปดูมาแล้วกลัว..ก็เลยเผ่นเสียอีก ก็ต้องบอกว่าเป็นปกติ เพราะว่าไม่ใช่แต่สามเณรที่เป็นเด็กจะกลัว แม้แต่ผู้ใหญ่ที่เจออาการแบบนั้นก็กลัวกันมามากแล้ว

ซึ่งความจริงถ้าพวกเราเจริญกรรมฐานกัน โดยมีการไหว้ครู มีการอาราธนาบารมีพระ อาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ท่านคุ้มครอง ตรงจุดนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปกลัวอะไร

แต่ส่วนใหญ่แล้วเรื่องของความกลัวนั้นเป็นจิตใต้สำนึก เป็นสิ่งที่แท้จริงในกำลังใจของเรา ดังนั้น...ถ้าหากว่าจะห้ามตนเองไม่ให้กลัว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก กระผม/อาตมภาพเองปฏิบัติธรรมมามาก แรก ๆ ก็ยังกลัว จนกระทั่งความกลัวมาหายไปตอนไหนก็บอกไม่ถูก

เพียงแต่ว่าเวลาสามเณรที่ทำได้ ถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมใหม่ อย่าไปอยากเห็นแบบนั้นอีก ให้ทำใจสบาย ๆ ว่าเรามีหน้าที่ภาวนา จะเห็นหรือไม่เห็น จะเป็นหรือไม่เป็น จะสว่างหรือไม่สว่างก็ช่างเถอะ ถ้าทำกำลังใจอย่างนี้แล้วภาวนาไปอย่างเดียว ก็จะสามารถเข้าถึงได้อีก

แต่ถ้าทำเมื่อไรก็อยากจะเห็นแบบนั้น ชาตินี้ก็ไม่ต้องเห็นอะไรอีกแล้ว เพราะว่าเป็นการทำโดยเอา "ความอยาก" นำหน้า ในเมื่อความอยากนำหน้า จิตใจไม่มั่นคง มีแต่ความฟุ้งซ่าน ก็แปลว่าเรายากที่จะเข้าถึงความดีในระดับที่ต้องการได้

เมื่อเช้านี้มีสามเณรบางรูปเดินตามตอนบิณฑบาตแทบไม่ทัน เพราะว่าเท้าบาง เดินไปแล้วเจ็บมาก จะว่าไปก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ความลำบากเหล่านี้จะหล่อหลอมให้เราอดทน ต่อไปอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ้าไม่ยากกว่านี้ ไม่ลำบากกว่านี้ ไม่เจ็บปวดกว่านี้ เราจะรับได้ทั้งหมด ซึ่งตรงจุดนี้บางทีสามเณรก็อาจจะไม่เข้าใจ

แม้กระทั่งในเรื่องของการฉันอาหาร ทำไมต้องจำกัดเวลา ? การจำกัดเวลา อันดับแรกเลยก็คือ เพื่อความพร้อมเพรียงกันของหมู่คณะ อันดับที่สองก็คือ นักบวชเขาไม่ให้เพลิดเพลินกับการกิน ถึงจะกินก็ต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ว่าเป็นไปเพื่อยังอัตภาพร่างกายนี้เอาไว้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2022 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา