ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 11-08-2022, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,214 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ งานใหญ่ของเราก็คือ งานอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุ ๙๐ พรรษา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าแม้จะมีผู้สมัครอุปสมบท ๓๑ รูป แต่ว่าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แล้ว ไม่ผ่านไป ๓ รูป ก็เลยเหลืออยู่แค่ ๒๘ รูป ถือว่าเป็นเลขมงคลไปก็แล้วกัน

คราวนี้ในส่วนที่ท่านทั้งหลายบวชเข้ามา แม้ว่าขั้นตอนจะยุ่งยาก แต่ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไป ส่วนที่ยากจริง ๆ ก็คือทำอย่างไรที่จะให้พวกเราอยู่ในสภาพของพระภิกษุโดยไม่ฟุ้งซ่าน เพราะว่าโดยปกติแล้ว พวกเราจะมีสภาพจิตที่ไหลไปในทางต่ำได้ง่าย ต่อให้ตั้งใจประคับประคองขนาดไหนก็ตาม เผลอเมื่อไร กิเลสก็จะชวนเราไป รัก โลภ โกรธ หลง อยู่ตลอดเวลา วิธีที่ดีที่สุดก็คือการอยู่กับลมหายใจเข้าออกตรงหน้า

อย่าลืมที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ให้กรรมฐานเราไว้ ก็คือเกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ บางท่านก็เรียกว่า มูลกรรมฐาน คือกรรมฐานที่เป็นพื้นฐานของกรรมฐานทั้งปวง บางท่านก็เรียกว่า ตจปัญจกกรรมฐาน คือกรรมฐาน ๕ อย่าง มีหนังเป็นที่สุด เพราะว่าเกสาคือผม โลมาคือขน นขาคือเล็บ ทันตาคือฟัน ตโจคือหนัง ๕ อย่างนี้เป็นส่วนที่สกปรกง่ายที่สุดในร่างกายของเรา ไม่ได้ทำความสะอาดชำระสะสางแค่วันสองวัน เราเองก็ทนไม่ไหว ไม่ใช่คนอื่นทนไม่ไหวเท่านั้น

คราวนี้ถ้าหากว่ารู้จักพินิจพิจารณา เราก็จะเห็นว่าสภาพร่างกายของเราก็เป็นเช่นนี้ ของคนอื่นก็เป็นเช่นนี้ ของสัตว์อื่นก็เป็นเช่นนี้ มีความสกปรกโสโครกเป็นปกติธรรมดา สภาพจิตที่ฟุ้งซ่านไปในกามราคะ ถ้าหากว่าเห็นตามความเป็นจริง ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ถอนจิตออกมาจากการยึดมั่นถือมั่น ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น บางท่านใช้คำว่า ตณฺหกฺขโย ถอนเสียซึ่งตัณหา วิราโค ดับซึ่งราคะ นิโรโธ เข้าถึงความดับอย่างแท้จริง นิพพานัง เข้าสู่สภาพของธรรมชาติที่หาความทุกข์ไม่ได้

กิเลสไปไหนหรือเปล่า ? ไม่ได้ไปไหน อยู่กับเราครบถ้วนสมบูรณ์ทุกตัว รัก โลภ โกรธ หลง มีเต็มตัว เพียงแต่ว่าเราเห็นโทษ แล้วก็ไม่ไปแตะต้องอีก เหมือนอย่างฟืนกับไฟ ในเมื่อไม่เอาไฟไปแหย่ ฟืนก็ลุกไหม้ไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2022 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา