ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 23-11-2022, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,468 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยอยู่ว่า ท่านทั้งหลายจะหลงประเด็นหรือเปล่า ? เพราะว่าเมื่อไม่มีความสามารถที่จะรักษาโรค ต่อให้มีความเมตตาขนาดไหน ก็คงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้ ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า "การที่เราจะไปบอกกับควายว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ก็มีควายน้อยตัวนักที่จะเข้าใจภาษาคนอย่างแท้จริงได้ ก็มักจะเอานิสัย หรือว่าความคิด ตลอดจนกระทั่งการกระทำแบบควาย มาคิดว่าแนวทางในการประพฤติปฏิบัติของครูบาอาจารย์หรือว่าของพระ จะต้องเป็นควายอย่างนั้น จะต้องเป็นควายแบบนี้ตามใจของตนเองถึงจะใช่ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่ใช่พระ..!"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สงสารว่า คนทั้งหลายเหล่านี้ช่างเป็นบุคคลที่ปัญญาน้อย ห่างไกลคุณความดีเหลือเกิน เพราะว่าอันดับแรกเลย ที่ไปวัดก็คือตั้งใจไปใช้พระ ต้องการให้พระรักษาโรคให้ตนเอง เมื่อพระไม่รักษาให้ เพราะไม่มีความชำนาญ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็กล่าวหาว่าพระขาดความเมตตา มีการทั้งด่าว่า ทั้งต่อว่า ดังที่กระผม/อาตมภาพเคยเจอมาด้วยตนเอง โดยที่ไม่ได้คิดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ว่ามีเมตตาก็จะช่วยเหลือได้ เป็นการพูดแบบเห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุด ถ้าไม่ได้อย่างใจของกู ก็แปลว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นไม่ใช่พระ..!

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สงสาร และรออยู่ว่า วันใดวันหนึ่งที่กำลังใจของท่านทั้งหลายสูงกว่านี้ สามารถที่จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหลายมากกว่านี้ ไม่เอาความคิดเฉพาะตนมาเป็นเครื่องวัดบุคคลอื่น โดยเฉพาะนักปฏิบัติ แล้วท่านทั้งหลายก็คงจะมีโอกาสในการขอขมาพระรัตนตรัยด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะได้แบกกรรมทั้งหลายเหล่านี้ไป โอกาสที่จะลงสู่อบายภูมิก็มีสูงมาก..!

หลังจากที่รับคณะของคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา แบบลวก ๆ จนกระทั่งคุณหญิงถามว่า "เตรียมไล่กันแล้วใช่ไหม ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่บอกว่า วัดท่าขนุนนั้นฉันเพลเวลา ๑๑ โมงครึ่ง คุณหญิงนัดมาตอน ๑๑ โมง ความจริงถ้าเป็นวัดอื่นก็คงไม่มีใครรอรับอยู่แล้ว แต่ว่าวัดท่าขนุนโชคดีที่ฉันเพลตอน ๑๑ โมงครึ่ง มีเวลาในการฉันแค่ ๓๐ นาที ถ้าให้เวลากับคณะของคุณหญิงมากไปกว่านี้ พระก็คงจะต้องอดเพลเช่นกัน

อำนวยอวยพรและถ่ายรูปกันเสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวไปฉันเพล โดยเฉพาะไปดูแลผู้สูงอายุทั้งหลายที่ทำตัวเป็นเด็กวัด มารอรับข้าวก้นบาตรอยู่ด้วย หลังจากเรียบร้อยแล้วก็ต้องเก็บข้าวของขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปยังภารกิจที่รัดตัวต่อไป

โดยที่อยากจะเรียนกับบรรดาแขกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายว่า ถ้าหากว่ามีบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์กัน ท่านทั้งหลายไปวัดก็มีโอกาสพบเจอเอง ถ้าหากว่าวาระบุญวาระกรรมยังไม่เปิดให้ ต่อให้นัดแนะกันไว้ ท่านทั้งหลายก็ไม่มีโอกาสได้พบ แบบเดียวกับคนทองผาภูมิ เห็นกระผม/อาตมภาพบิณฑบาต ก็ดีใจว่า "วันนี้หลวงพ่ออยู่วัด" พอสายหน่อยมาถึงวัด ปรากฏว่าหลวงพ่อข้ามไปหลายจังหวัดแล้ว..! เนื่องจากว่ากลับจากบิณฑบาต ฉันเช้าเสร็จ ก็ต้องรีบเดินทางไปตามภารกิจของตน

จึงเป็นเรื่องที่ต้องกล่าวคำขอโทษขออภัยต่อท่านทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ เพราะว่ากิจการงานของคณะสงฆ์ก็ดี งานที่ครูบาอาจารย์สั่งให้ทำก็ตาม กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญกว่าการที่จะมานั่งรับญาติโยมอยู่กับวัด ทำให้ท่านทั้งหลายเดินทางไปไกลแล้วไม่มีโอกาสได้เจอเป็นส่วนมาก ได้แต่หวังว่าโอกาสหน้า ถ้าท่านทั้งหลายไม่ท้อใจเสียก่อน พยายามไปอีก ก็คงได้พบได้เจอกัน


สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2022 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา