ปัจจุบันนี้ญาติโยมตั้งความหวังไว้กับพระเณรสูงมาก โดยที่ลืมไปว่าพระภิกษุสามเณรนั้นก็บวชมาจากลูกชาวบ้าน เป็นผู้ที่พยายามฝึกหัด กาย วาจา ใจ ของตนเอง เป็นผู้พยายามขัดเกลากิเลสของตนเอง โดยมีศีล ๒๒๗ ข้อเป็นกรอบ ในเมื่อเขาตั้งความหวังไว้สูง และไม่พยายามทำความเข้าใจ เราก็ต้องพยายามทำให้ได้อย่างที่เขาหวัง ก็คือดีที่สุดเต็มกำลังของเรา
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การที่เราบวชในยุคนี้สมัยนี้จึงเป็นเรื่องยาก เป็นภาระที่หนัก พลาดเมื่อไรก็เสียหายใหญ่โต จึงต้องทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ไหวพริบปฏิภาณทั้งหมด ในการที่จะรักษาความเป็นพระเป็นเณรของเราให้อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง พวกเรายังดีที่มีครูบาอาจารย์คอยจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ ถ้าเป็นที่อื่นเขาก็ปล่อยเป็นปลาตายลอยน้ำ มีแต่จะสร้างความเน่าเหม็นเสียหายให้กับพระศาสนามากขึ้นทุกวัน
ดังนั้น...ในช่วงระยะเวลาก่อนที่จะบวช นาคทั้งสองก็ต้องพยายามตั้งใจให้เต็มที่ อะไรที่ไม่รู้ต้องถาม อะไรที่ไม่เข้าใจต้องใช้ปัญญาคิด ไม่ใช่ตีลูกบื้ออยู่อย่างเดียว โบราณว่าอายครูบ่รู้วิชา ถ้าหากว่าไม่สอบถาม จะได้ความรู้ขึ้นมาอย่างไร ได้แต่หวังว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไป น่าจะรู้สึกปรับปรุงตนเองให้ดีกว่าที่ผ่านมา แล้วขณะเดียวกัน ก็แบ่งสรรปันส่วนหน้าที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ไม่ใช่ปล่อยคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่ไป ส่วนเราก็แค่เดินตาม
ก็ได้แต่หวังว่าก่อนบวช น่าจะขัดเกลาได้เข้าที่เข้าทางในระดับหนึ่ง ถ้าหากว่าไม่ไหว คณะกรรมการที่พิจารณาการบวชให้ความเห็นมา ก็คงต้องให้รอไปอีก จนกว่าที่จะเห็นสมควรว่าจะบวชได้..แล้วค่อยบวช วัดเรามีโอกาสบวชปีละ ๔ ครั้ง อย่างช้าที่สุดก็คือวันลอยกระทง ก็ขอบอกกล่าวให้ชัดเจน เพื่อที่ทั้งพระเก่าพระใหม่ ตลอดจนกระทั่งนาค และญาติโยมที่อยู่ทางบ้าน ถ้าหากคิดจะบวช วัดท่าขนุนอาจจะไม่ใช่สถานที่อันเหมาะสม ถ้าเราไม่ใช่บุคคลที่มีความอดทนและพากเพียรได้เพียงพอ
ก็ขอฝากข้อคิดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอเจริญพรทุกท่าน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2021 เมื่อ 09:22
|