แต่ถ้าหากว่าไม่ไหวจริง ๆ รู้สึกว่าเหงื่อไหลเหมือนงูเลื้อยเลย หลายท่านก็คงจะรู้ กระผม/อาตมภาพก็เคยนั่งแบบนี้ ๓ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมงผ่านไป เหงื่อไหลตามหลัง รู้สึกเหมือนอย่างกับงูเลื้อยเลย ถ้าหากว่าถึงระดับนั้นแล้ว ไม่ไหวจริง ๆ ก็คลายบัลลังก์เสียหน่อย เพราะว่ากำลังใจเรายังไม่ไหว
แต่ถ้ากำลังใจเราไหว สู้กันแค่ตายไปข้างหนึ่ง อยากรู้จริง ๆ ว่าปวดตรงไหน ? ความปวดใช่เราหรือไม่ ? ปวดตรงนี้จริงหรือ ? ตามดูไปเถอะครับ แล้วจะเห็นมายาของร่างกายนี้ เพราะว่าพอเราตั้งใจเอาจิตจดจ่อลงไป ปวดหนอ ๆ ๆ ตรงนั้น ความปวดก็จะเลื่อนหนีไปเรื่อย จนกระทั่งหาทางหนีไม่ได้ก็จะหายวับไปเฉย ๆ ก็มี
ดังนั้น...ตรงจุดนี้ขึ้นอยู่กับเราว่า เราปฏิบัติแบบไหน แต่ขอถวายคำพูดของสายวัดป่าที่ว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ถ้าหากว่าเราสู้แค่ตาย เราถึงมีโอกาสเข้าถึงความดีได้ง่ายขึ้น
ตรงนี้มีทั้งพระทั้งฆราวาสเคยเป็นลูกศิษย์ที่สนิทสนมกันอยู่หลายราย ก็ดีใจว่าท่านทั้งหลายยังมีการมาต่อบุญของตัวเองอยู่
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2022 เมื่อ 02:31
|