ในเรื่องของการอยู่ร่วมกันระหว่างครอบครัว สามีภรรยานั้น ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานฆราวาสธรรม ๔ มา เพื่อให้รักษาครอบครัวของเราให้มั่นคงยั่งยืน ประกอบไปด้วย
ข้อที่ ๑ สัจจะ มีความจริงจังจริงใจต่อกัน ทำอะไรก็ไม่มีการปิดบังอีกฝ่ายหนึ่ง บอกกล่าวให้ทราบอย่างชัดเจน จะได้ก้าวเดินไปในทางเดียวกันได้
ข้อที่ ๒ ทมะ ต้องมีความข่มใจต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบในชีวิต แต่คำว่าข่มใจในที่นี้ ต้องข่มใจด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ไม่ใช่ตัวเราเอาแต่ใจตัวเอง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งข่มใจอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ครอบครัวจะอยู่รอดมั่นคงก็เป็นไปได้ยาก
ข้อที่ ๓ ขันติ มีความอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบากในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง ในที่นี้หมายถึงการช่วยกันทำมาหากิน ต่อให้ยากลำบาก อยู่ในลักษณะของ "ผัวหาบเมียคอน" ก็จำเป็นที่จะต้องอดทนอดกลั้น ช่วยกันสร้างครอบครัวจนกว่าจะประสบความสำเร็จมั่นคง
ข้อที่ ๔ จาคะ ต้องเสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อประโยชน์สุขของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่เอาแต่ตัวเราสุข ตัวเราสบาย คนอื่นจะ "หวานอมขมกลืน" อย่างไร ก็ปล่อยให้ฝืนทำหน้าชื่นทนไป เราไม่ยอมรับรู้ ถ้าอย่างนั้น วันใดที่ความอดทนอดกลั้นของอีกฝ่ายหนึ่งหมดสิ้นลง เราก็จะไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดี ๆ เขาถึงได้หันหลังจากไปเฉย ๆ แบบนั้น..!
สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:28
|