ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 20-01-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้นิสิตของวัดท่าขนุนเราต้องปฏิบัติธรรมประจำปี ซึ่งเลื่อนมาจากเดือนธันวาคมของทุกปี ก็เพราะว่าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์เป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่ตั้งใหม่ การงานต่าง ๆ ยังขาดความคล่องตัวอยู่มาก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้งบประมาณส่วนกลาง เขามีกรอบเวลาให้ทำตามนั้น ยังโชคดีที่ว่าสามารถอ้างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้ ก็เลยทำให้สามารถเลื่อนต่อมาได้อีก ๑ เดือน ไม่อย่างนั้นงานทุกอย่างต้องจบลงเมื่อสิ้นไตรมาส ก็คือสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๔

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นความเคยชิน แต่เป็นความเคยชินในด้านที่ไม่ดี ที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นภาษาบาลีว่า อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม ได้ยินว่าการฝึกตนนั้นช่างยากจริงหนอ เพราะว่าส่วนใหญ่กลายเป็น "นิสัยถาวร" ไปแล้ว ในเมื่อกลายเป็นนิสัยถาวร การแก้ไขต่าง ๆ จะยากมาก

แล้วถ้าหากว่ายิ่งเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วย ก็มักจะยึดมั่นถือมั่นในเรื่องของสีลัพพตุปาทาน คือ "กูทำดีแล้ว กูทำถูกแล้ว" ถ้าไม่ใช่บุคคลที่เชื่อถือได้จริง ๆ มาบอกกล่าวให้แก้ไข ก็มักจะรั้น ไม่ยอมแก้ไข

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพเจอมาตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ขนาดหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านออกปากเอง เขายังไม่คิดเลยว่าตัวเองผิด อย่างเช่น มีอยู่วันหนึ่งท่านบอกว่า "วันนี้พระเสด็จมา ท่านบอกว่า พระของคุณมีอยู่ ๔ รูปที่กำลังใจดำมาก" อันนี้หมายถึงสีของจิต "ถ้าหากว่าไม่แก้ไข โอกาสลงอบายภูมิมีสูง..!"

เมื่อได้ยินแบบนี้ พอเลิกจากปาฏิโมกข์ ออกจากโบสถ์มา เสียงที่กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วรู้สึกรำคาญใจก็คือ ทุกคนไปไล่ถามกันว่า "ใครวะ ?" กระผม/อาตมภาพกับท่านชาติชาย (พระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล - ลือพาณิชย์กุล) ตอนนั้น ๒ รูปนี้มีวีรกรรมเยอะมาก เพราะว่างัดข้อกับท่านอื่นเป็นประจำ ด้วยความหมั่นไส้
กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "ผมกับท่านชาติชายรับไป ๒ ไอ้ที่เหลือไปแบ่งกันเองก็แล้วกัน..!"

ก็คือทุกครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกกล่าวอะไร โดยเฉพาะในส่วนไม่ดีที่ต้องแก้ไข กระผม/อาตมภาพจะคิดอยู่เสมอว่า "กูด้วย" "กูโดนด้วย" "กูต้องแก้ไข" แต่นิสัยถาวรของพวกเรา แม้แต่คนในวัด มักจะไม่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ในลักษณะที่โบราณเขาบอกว่า "โทษคนอื่นมองเห็นเป็นภูเขา โทษของเรามองเห็นเท่าเส้นขน" ในเมื่อเป็นอย่างนั้น โอกาสที่จะได้ดีก็หายากมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-01-2022 เมื่อ 00:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา