อีกไม่กี่วันทางวัดท่าขนุนก็จะมีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งเด็ก ๆ ที่เข้ามาบวชนั้น ไม่เกิน ๓ วันก็เรียบเป็นผ้าพับไว้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทางบ้านและทางโรงเรียนไม่สามารถที่จะต่อยอดได้ เด็ก ๆ อยู่ที่นี่กินอาหารเอง ล้างถ้วยจานเอง ซักผ้าเอง ถูศาลาเอง กวาดทำความสะอาดวัดเอง แต่พอกลับบ้านไป ด้วยความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไปทำแทนอีก ซึ่งโดยวิสัยคนเราก็คือรักความสบาย ในเมื่อมีคนทำให้ก็รับไว้ด้วยความยินดี ท้ายที่สุดก็กลับไปเหมือนเดิมทุกประการ
ดังนั้น...บางท่านที่หวังว่าเอาลูกมาบวชเพื่อขัดเกลา ทางวัดช่วยเหลือขัดเกลาให้ได้ แต่ว่าทางบ้านต้องต่อยอดให้ได้ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ทำไปก็เสียเปล่าปีแล้วปีเล่า เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าพ่อแม่ไม่กล้าลงโทษลูกตัวเอง บางทีสามเณรทะเลาะกัน กระผม/อาตมภาพตีเสียทั้งคู่ คนเป็นพ่อเป็นแม่ยืนน้ำตาไหล บอกว่า "ดีแล้วครับที่หลวงพ่อตี ถ้าให้ผมตี ผมก็ไม่กล้า" ตรงนี้จะออกไปในแนว "พ่อแม่รังแกฉัน" ก็คือมีอะไรก็รักลูกจนเกินไป ให้ท้ายทุกเรื่อง จนกระทั่งท้ายสุด เด็กซึ่งชินกับการโดนพะเน้าพะนอมาตลอดชีวิต ใครก็ขัดใจไม่ได้
จึงขอฝากเป็นการบ้านให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ว่า ถ้าจะแก้ไขลูก ๆ ของตนเองต้องแก้ตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะหัดให้สวดมนต์ ทำวัตร หัดให้นั่งสมาธิ ไม่เช่นนั้นแล้ว วิธีอื่นล้วนแล้วแต่แก้ไขลำบาก เพราะว่าเมื่อจิตใจไม่สงบ การแสดงออกทาง กาย วาจา ก็เป็นไปตามนั้นด้วย
เราจะเห็นว่าเด็กสมาธิสั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่ารักลูกมากจนเกินไป เพราะว่าบรรดาสิ่งของต่าง ๆ ที่ขายมาเพื่อบำรุงคนเป็นแม่และเด็ก สมัยกระผม/อาตมภาพยังเล็ก ๆ อยู่ไม่มี แล้วก็ไม่ตาย แถมยังฉลาดเกินมนุษย์มนาด้วย แปลว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นขาดได้ แค่กินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ก็พอ
วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2022 เมื่อ 01:58
|