การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปให้ถูกต้องตามลักษณะวรรณคดี ก็ต้องไม่ขายความอลังการของเครื่องทรงกษัตริย์ แต่ว่าต้องขายความเป็นจริง ก็คือต้องอยู่ในชุดของนักบวช จะเป็นพระฤๅษีหรืออะไรก็ตาม และต้องไม่ถืออาวุธ คือพระแสงศร หรือว่าพระแสงขรรค์ติดไปในลักษณะอย่างนั้น
ถ้าสามารถแก้ไขตรงนี้ให้เป็นไปตามความเป็นจริงได้ โขนละครของไทยเราก็น่าจะมีความก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง ไม่ใช่ขายจินตนาการและเครื่องทรงอย่างเดียว โดยลืมนึกถึงความเป็นจริงของเพศภาวะนักบวชไป
ตรงจุดนี้ก็ขอมอบเป็นภาระของทางกระทรวงวัฒนธรรม เป็นภาระของทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และเป็นภาระของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ในการที่จะคิดค้นท่าโขนต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับเพศภาวะนักบวช ให้แก่พระราม พระลักษณ์ และนางสีดา ซึ่งในตอนนั้นถือเพศเป็นนักพรตอยู่
ดังนั้น...ในส่วนนี้จะเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ก็ตาม ก็ถือว่ากระผม/อาตมภาพได้พูด ได้บอกกล่าวในสิ่งที่สมควรแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ได้ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-03-2022 เมื่อ 03:01
|