ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-11-2021, 23:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,069
ได้รับอนุโมทนา 4,399,743 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงที่บรรดานักเรียนบาลีของวัดท่าขนุน เรียนอยู่ที่สหบาลีศึกษานครปฐม และพักอยู่ที่คณะ ๒ วัดพระปฐมเจดีย์ บรรดาพระเณรที่นั่นเขาบอกว่า "อย่าไปคณะ ๒ เลยนะพวกมึง เคร่งฉิบหายเลย..!" ซึ่งความจริงพระของเราที่ไปอยู่ที่นั่นก็แค่สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญพระกรรมฐานตามปกติ

แต่ในสายตาของเขากลายเป็นเคร่งมาก เพราะว่าโดยปกติแล้ว บรรดาพระนักเรียนจะเน้นเรื่องการเรียนอย่างเดียว วัตรปฏิบัติอื่น ๆ ไม่เอา ข้าวปลาอาหารก็สั่งมาส่งถึงกุฏิ แต่ถ้าหากว่าพวกคุณไม่ลืมในสิ่งที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์บอกในวันแรกที่บวช ปิณฑิยาโลปะโภชะนัง นิสสายะ ปัพพัชชา ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตคือการเที่ยวบิณฑบาต ไม่ใช่สั่งแกร็บฟู้ด สั่งฟู้ดแพนดามาส่งให้

คราวนี้ก็สำคัญอยู่ตรงที่ว่า อันดับแรก...พระอุปัชฌาย์อาจารย์ได้ให้ความเข้มงวดและสั่งสอนไว้หรือเปล่า ? ประการที่สอง..ยิ่งสำคัญเข้าไปอีกก็คือ พระเณรนั้นมีจิตสำนึกของความเป็นพระเณรของตนหรือเปล่า ? ถ้าไม่มีจิตสำนึกถึงความเป็นพระเป็นเณรของตน ต่อให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์ปากเปียกปากแฉะขนาดไหน ก็คงจะเอาดีไม่ได้

ต้องสองอย่างรวมกัน ก็คือพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรือว่าเจ้าอาวาสมีความเข้มงวด แล้วขณะเดียวกัน พระภิกษุสามเณรก็ต้องใฝ่ดีด้วย ไม่ใช่บวชเข้ามาแล้วก็ "ฉันเช้าแล้วเอน ฉันเพลแล้วนอน ตอนบ่ายพักผ่อน ตอนค่ำจำวัด" ปล่อยชีวิตล่องลอยแบบหายใจทิ้งไปวัน ๆ ไม่ได้คิดจะให้พระศาสนาได้อาศัยอะไรตนเองเลย มีแต่ตนเองอาศัยพระศาสนาหากิน แล้วก็สร้างความเสื่อมเสียให้กับพระศาสนามากขึ้นไปเรื่อย ๆ

ดังนั้น...ในส่วนของวัดท่าขนุน ผมไม่ได้หวังอะไรมาก ผมหวังแค่ว่าพระภิกษุสามเณรของเรายังรักษาวัตรปฏิบัติแบบเดิม ๆ ก็คือเป็นพระของพระพุทธเจ้า เพื่อที่จะได้ช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าเมื่อญาติโยมกราบไหว้ ให้เขาไหว้ได้เต็มมือ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

ปัจจุบันนี้พระเณรในวัดที่เขาไหว้ได้เต็มมือโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ทั่วประเทศไทยก็มีน้อยลงไปเรื่อย ถ้าหากว่าท่านสังเกตจะเห็นว่า บางแห่งพอขาดเจ้าอาวาส เขาก็มาขอจากวัดท่าขนุน ก็เพราะเขาเห็นว่า อย่างน้อย ๆ พวกท่านสามารถรักษาวัตรปฏิบัติแบบดั้งเดิมเอาไว้ ถ้าไปเป็นเจ้าอาวาส อย่างน้อยก็สามารถที่จะรักษาแนวทางความเป็นพระของพระพุทธเจ้าเอาไว้ได้

ตรงส่วนนี้นอกจากพระอุปัชฌาย์อาจารย์ต้องเข้มงวดกวดขัน พระภิกษุสามเณรต้องมีความใฝ่ดีแล้ว ญาติโยมทั้งหลายยังต้องเป็นผู้ที่ช่วยกันควบคุมพระภิกษุสามเณรด้วย แต่คราวนี้การควบคุมไม่ใช่ไปจ้ำจี้จ้ำไชสั่งสอนพระเณร แต่ก็คือแบบที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำ โดยเปิดเสียงตามสายในเรื่องของพระวินัย ที่พระภิกษุสามเณรจำเป็นจะต้องปฏิบัติ ซึ่งก็คือศีลของพระ ๒๒๗ ข้อนั่นเอง

ในเมื่อโยมรู้เท่ากับพระ ถึงเวลาพระจะทำผิดแล้วลดเลี้ยวไป โดยการหลอกโยมที่ไม่รู้นั้น ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ตรงจุดนี้ทางวัดขนุนของเราถึงได้เปิดเสียงตามสายเป็นปกติ วันละ ๔ รอบ เมื่อถึงเวลา โยมรู้ว่าพระภิกษุสามเณรต้องทำอย่างไร ก็จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2021 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา