วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ งานคณะสงฆ์แม้ว่าจะมาก แต่ว่าส่วนที่อยู่ในความสนใจของญาติโยมเกี่ยวกับคณะสงฆ์ กลับเป็นเรื่องที่พระจะสึก ต้องบอกว่าเป็นการให้ความสำคัญผิดพลาด คือพระของเราบวชแล้วสึกเป็นปกติ แต่คราวนี้มีปัญหาอยู่ตรงที่ว่า ถ้าพระรูปใดรูปหนึ่งบวชหลาย ๆ พรรษาแล้วสึก ในความรู้สึกของคนไทยเราก็คือ ท่านแปลกแยกจากสังคม
ตรงนี้กระผม/อาตมภาพชื่นชมพุทธศาสนิกชนชาวพม่า ตลอดระยะเวลา ๖ ปีที่ไปสร้างวัดที่พม่า ช่วงที่มีเวลาว่างก็เดินทางไปดูกิจการงานพระพุทธศาสนาในพม่า ต้องบอกว่าเกือบจะทุกซอกทุกมุม ส่วนที่เห็นชัดอย่างหนึ่งก็คือ พุทธศาสนิกชนชาวพม่าน่าจะมีความเข้าใจในหลักธรรม หรือเข้าถึงธรรมมากกว่าพุทธศาสนิกชนชาวไทยมากทีเดียว
แค่ในเรื่องของการบวชการสึกของพระ ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดแล้ว เมื่อพระพม่าสึก ก็คลุกคลีตีโมงกับชาวบ้าน กลมกลืนกันเดี๋ยวนั้นเลย แต่ถ้าหากว่าอีกไม่กี่วันบวชเข้าไปใหม่ ชาวบ้านก็ไหว้ก็กราบแบบทูนหัวทูนเกล้าได้เลยเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยของเราควรจะมี
ถ้าหากว่าพูดกันแบบไม่เกรงใจก็คือ พุทธศาสนิกชนชาวไทยเล่นตามบทไม่ถูกต้อง แต่ของพม่านั้นเล่นตามบทได้ถูกต้อง ตอนคุณเป็นฆราวาสก็คลุกคลีตีโมงเล่นหัวกันไป แต่ทันทีที่บวชเป็นพระ เขาก็กราบก็ไหว้ได้เต็มมือเดี๋ยวนั้นเลย
แต่คราวนี้บ้านเรา ถ้าหากว่าพระบวชหลายพรรษาหน่อย สัก ๓ พรรษา ๔ พรรษาขึ้นไปแล้วสึก ชาวบ้านจะเริ่มรู้สึกว่าแปลกแยกจากสังคม แล้วถ้าหากว่าเป็น ๑๐ พรรษาระดับเถระขึ้นไป หรือ ๒๐ พรรษาระดับมหาเถระขึ้นไปก็ยิ่งหนัก แต่คราวนี้ในส่วนนี้ขอละไว้ไม่กล่าวถึงมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-12-2021 เมื่อ 00:26
|