ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 06-06-2022, 23:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,296 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราใช้กำลังสมาธิไปในการพินิจพิจารณาลักษณะนี้ ก็เป็นการใช้กำลังสมาธิให้หมดไป เหมือนกับแบตเตอรี่เริ่มพร่อง เราก็สามารถภาวนาเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ได้

เพราะฉะนั้น...สมถกรรมฐานคือการภาวนา วิปัสสนากรรมฐานคือการพิจารณา เหมือนกับบุคคลที่ผูกขาติดกัน ต้องผลัดกันเดินคนละข้าง ถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้ ถ้าพยายามดื้อไปแค่ข้างเดียว พอสุดสายโซ่ที่ผูกอยู่ เราจะโดนดึงกลับ และพังง่ายที่สุด

อีกส่วนหนึ่งที่น่าสงสารมากที่สุดก็คือ ท่านทั้งหลายภาวนาไปแล้ว แต่พิจารณาไม่เป็น ในเมื่อเราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากกำลังสมาธินั้น กิเลสจะเอาไปใช้แทน ก็คือในเมื่อเราไม่หาวิปัสสนาญานให้พินิจพิจารณา กิเลสก็จะคว้ากำลังสมาธิไปใช้ ไปฟุ้งซ่าน วิ่งไปหา รัก โลภ โกรธ หลง แทน

คราวนี้ก็เดือดร้อนกันใหญ่โต เพราะว่ากิเลสมีกำลังจากสมาธิของเรา ก็จะฟุ้งซ่านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการ เอาคืนยากที่สุด เพราะว่ากิเลสมีกำลังจากการปฏิบัติของเราเอง เท่ากับเลี้ยงเสือไว้กัดเราเอง..!

นักปฏิบัติที่เอาดีไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ เมื่อโดนกิเลสตีหงายท้องเมื่อไร ก็มานั่งคร่ำครวญว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ก็เราไปสร้างกำลังให้กิเลสเอาไปใช้เอง จะไปโทษใครได้

หลังจากนั้นปัญญาในการพิจารณาของเรา ต่ำที่สุดต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย เหมือนกับในงานศพวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพไปมา ที่บอกว่าตายกะทันหันนั่นแหละ คนอายุ ๘๘ ย่าง ๘๙ ถ้าบอกว่าตายกะทันหัน
กระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้พูดอะไรแล้ว พี่น้องลาวเขาบอกว่า "เมิ้ดคำสิเว่า"

รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย เราจะได้ไม่ประมาท ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างน้อย ๆ ถ้าหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้ ก็ให้หนทางแห่งการเวียนว่ายตายเกิดของเรา เหลือสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงจะสมกับเป็นบุคคลที่เข้ามาปฏิบัติธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วันนี้ก็ขอบอกกล่าวกับพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2022 เมื่อ 07:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา