ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 06-06-2022, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,314 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของสมาธิ อย่างน้อยต้องทรงสมาธิภาวนาให้ได้ระดับปฐมฌานขึ้นไป เพื่อที่จะได้มีกำลังในการตัดกิเลส ปฐมฌานง่ายนิดเดียว ทำเดี๋ยวนี้ได้เดี๋ยวนี้เลย ก็คือการที่เรากำหนดคำภาวนาพร้อมกับคำหายใจ รู้ตัวตั้งแต่ปลายจมูก ผ่านกึ่งกลางอก ลงไปสุดที่ท้อง ออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก แค่นี้แหละคือปฐมฌาน สำคัญที่ว่าพวกท่านทั้งหลายจะรักษาเอาไว้ได้ไหม ?

ขอยืนยันในฐานะผู้เดินทางผ่านตรงจุดนี้มาก่อน ใช้เวลาถึง ๓ ปีเต็ม ๆ ในการตะเกียกตะกายทำเพื่อปฐมฌาน ง่ายแค่นี้เอง แต่ยากที่สุดตรงที่จะรักษาให้อยู่กับเรา รักษาได้นานแค่ไหน ก็สามารถกดกิเลสให้นิ่งสนิทลงได้นานแค่นั้น

แต่ต้องระมัดระวังให้ดีว่า ตราบใดที่เรายังตัดกิเลสไม่ได้ ได้แค่กดกิเลสเอาไว้ด้วยกำลังของสมาธิ ก็เหมือนกับเรากดคอเสือร้ายเอาไว้ วันไหนเผลอ ปล่อยหลุดเมื่อไร เสือก็ฟัดเราปางตายเหมือนเดิม..!

ลำดับสุดท้าย คือการใช้ปัญญา ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก แต่ว่าพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายมักจะใช้กันไม่เป็น

ถ้าเราภาวนาไปจนถึงที่สุด ก็คืออารมณ์ใจไปต่อไม่ได้แล้ว รับการภาวนาไม่ไหวแล้ว อย่างที่กระผม/อาตมภาพเปรียบไว้ว่า เหมือนกับชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้ว ขืนชาร์จต่อหม้อแบตเตอรี่ระเบิดแน่นอน

เขาให้ใช้กำลังนั้นมาพินิจพิจารณา อย่างน้อย ๆ ต้องเห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราในร่างกายนี้ แล้วค่อยเห็นเลยไปถึงร่างกายคนอื่น ร่างกายสัตว์อื่น วัตถุธาตุอื่นทั้งหมด แม้กระทั่งโลกนี้ ต้องเห็นแล้วยอมรับว่าเป็นอย่างนั้นอย่างแท้จริงด้วย ไม่ใช่เห็นแล้วใจยังไม่ยอมรับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2022 เมื่อ 07:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา