สนทนากับพระอาจารย์ภาสกร "ตอนนี้ผมรับตำแหน่ง ๒๐ กว่าตำแหน่งครับ เจ้านายเขาเคยใช้ใครได้ เขาก็ใช้แต่คนนั้นแหละ กลายเป็นว่าแค่ประชุมอย่างเดียวก็หมดเวลาแล้ว โดยเฉพาะคณะกรรมการปฏิรูปพุทธศาสนา ปกติเขาก็เป็นแค่ฝ่ายละตำแหน่ง ผมโดนไป ๒ ฝ่าย โดนฝ่ายการศึกษาในฐานะที่คุณจบปริญญาเอก แล้วก็โดนฝ่ายการเผยแผ่ ในฐานะที่สอนธรรมชาวบ้าน
พอถึงเวลาบางทีเขาประชุมพร้อมกัน เขาบอกเอาอย่างนี้แล้วกัน นั่งโต๊ะนี้ให้ผมถ่ายรูปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยไปโต๊ะโน้น ถึงเวลาเขาจะเรียกประชุมเพื่อที่จะวางแนวทางวางยุทธศาสตร์อะไร แต่บางอย่างผมก็เห็นว่าไปไกลเกิน อย่างที่ไปกำหนดกฎเกณฑ์ว่าชาวบ้านต้องถวายอาหารอย่างนั้นอย่างนี้กับพระ..ไม่ใช่ครับ ของจริงคือ พระเราต้องมีโภชเนมัตตัญญุตาเอง..ใช่ไหม ? อันนี้ไปกำหนดว่าอาหารอย่างนั้นถวายพระไม่ได้ อาหารอย่างนี้ถวายพระได้ ญาติโยมเขาลำบากตายชัก..!
ผมเองเข้าไปกลายเป็นฝ่ายค้าน ผมบอกว่าหลงประเด็นไปไกล ไปกำหนดธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ จะต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ มีการเซ็นเอ็มโอยูอย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกว่าไปไกลเกิน พระเราถ้ามีโภชเนมัตตัญญุตา ก็ไม่ป่วยแหง็ก ๆ ขนาดนั้นหรอก"
ถาม : โชคดีที่พระอาจารย์ไปขวางไว้ ?
ตอบ : ขวางไม่อยู่ครับ เพราะว่าเสียงท่านเยอะกว่า ท่านจะเอาอย่างนั้น แต่ให้ท่านรู้ว่ามีคนค้าน ผมก็เหมือนท่านอาจารย์นั่นแหละ ถึงเวลาก็ค้านไว้ก่อน เห็นไม่เข้าท่าก็ใส่ไว้ก่อน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:07
|