ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 25-03-2022, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรายังสอนให้เกินไปกว่านั้น ก็คือนอกจากเทวตานุสติ การที่เราสามารถเป็นเทวดานางฟ้าในระดับปกติ สามารถเป็นโลกียพรหม หรือว่ารูปพรหมแล้ว พระองค์ท่านยังสอนให้เข้าถึงสมาบัติ ๘ ก็คือเปลี่ยนจากกสิณกองใดกองหนึ่งที่ทรงได้ถึงระดับฌาน ๔ ไปเป็นอรูปฌาน ก็คือเพิกภาพกสิณนั้นเสีย แล้วก็จับความว่างไม่มีอะไรของอากาศ ก็จะสามารถเข้าถึงสมาธิอย่างเต็มที่ในระดับเดียวกับฌาน ๔ แต่ว่ายึดเอาความว่างของอากาศเป็นอารมณ์ ท่านจะเข้าถึงอรูปพรหมชั้นแรกก็คืออากาสานัญจายตนฌาน

ถ้าหากว่าท่านกระทำต่อไปอีก ด้วยการพินิจพิจารณาว่า คำว่าอากาศนั้น ก็ยังมีขอบเขตที่ยึดถืออยู่ เพราะว่าสภาพจิตของเราเป็นผู้กำหนดซึ่งขอบเขตนั้น ก็ไปกำหนดเอาผู้ยึดถือก็คือวิญญาณความรู้สึกนั้นแทน เพิกภาพเสีย แล้วจับความไม่มีขอบเขตของวิญญาณแทน เมื่อสามารถทรงกำลังได้เต็มที่ถึงระดับเดียวกับฌาน ๔ ท่านก็จะได้อรูปฌานที่ ๒ ก็คือวิญญานัญจายตนฌาน
ท่านก็จะสามารถเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๒ ก็คือวิญญาณัญจายตนพรหม

ถ้าหากว่าท่านกระทำต่อไปอีกโดยที่ไม่ท้อถอย พิจารณาเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรา ตัวเขา คน สัตว์ วัตถุธาตุต่าง ๆ ล้วนแต่เสื่อมสลายตายพังไปทั้งสิ้น ท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าสามารถที่จะรักษาอารมณ์ใจเช่นนี้เอาไว้ จนกระทั่งทรงกำลังใจเต็มที่ได้เท่ากับฌาน ๔ ท่านก็จะเข้าถึงอรูปฌานที่ ๓ คืออากิญจัญญายตนฌาน
ท่านก็จะสามารถเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๒ ก็คือ อากิญจัญญายตนพรหม

เมื่อท่านเข้าถึงอรูปฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ เรียกง่าย ๆ ว่าสมาบัติที่ ๕ ที่ ๖ ที่ ๗ แล้วท่านนำเอาผลนั้นมาใช้ ก็คือเมื่อตัวเรารู้สึกว่าหิว ก็ทำเป็นเหมือนไม่หิว รู้สึกว่ากระหาย ก็ทำเป็นเหมือนไม่กระหาย รู้สึกว่าร้อน ก็ทำเป็นเหมือนกับไม่ร้อน รู้สึกว่าหนาว ก็ทำเป็นเหมือนกับไม่หนาว เป็นต้น

ถ้าหากว่าท่านสามารถรักษาความรู้สึกเช่นนี้เอาไว้ จนทรงสมาธิในระดับฌาน ๔ ได้ ท่านก็จะเข้าถึงอรูปฌานที่ ๔ เรียกว่า เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ก็จะเกิดเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๔ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2022 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา