ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 02-05-2022, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,356 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงตรง หลังจากที่มีการสวดมาติกาแล้ว พระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ ก็ได้กล่าวสังเวคกถา ถึงการที่พวกเราทั้งหลายสามัคคีมาชุมนุมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคณะสงฆ์ของหนใต้ก็ดี และคณะสงฆ์จากจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครก็ตาม ที่มารวมกันอยู่แล้วหลายร้อยรูป แม้น่ากลัวว่าจะมีการคิดร้ายทำร้ายอะไรกันขึ้นมาอีกหรือเปล่า ? แต่การที่เราท่านทั้งหลายมารวมกันจำนวนมากนั้น ก็แสดงออกซึ่งความสามัคคีกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้ทุกคนเห็นว่าชาวพุทธของเรานั้นไม่ทิ้งกัน

เมื่อพระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ได้กล่าวสังเวคกถา และอนุโมทนากับทุกท่านแล้ว ก็เริ่มพิธีพิจารณาผ้าไตรบังสุกุล ปรากฏว่าทันทีที่เริ่มทอดผ้าไตร ฝนก็ได้กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ด้วยกระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ริมสุด ก็คือขอบเต็นท์ จึงโดนละอองฝนอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งระยะเวลาผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้ารอจนกระทั่งเสร็จพิธี อาการไข้ที่กำเริบเพราะว่าอากาศร้อนแล้วมาโดนฝน ก็อาจจะหนักถึงขนาดสั่นให้คนอื่นเขาเห็น ซึ่งจะเป็นการเสียกิริยา หรือว่าทำเอาผู้อื่นตกอกตกใจ

กระผม/อาตมภาพจึงได้ชวนญาติโยมทั้งหลายกลับ ปล่อยให้หลวงนิล คือพระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม ซึ่งเดินทางร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อวาน จนกระทั่งถึงวันนี้ ซึ่งนั่งเที่ยวบินจากสกลนครมาลงดอนเมืองพร้อมกัน นั่งเที่ยวบินจากดอนเมืองมาลงหาดใหญ่พร้อมกัน ปล่อยให้ท่านที่เป็นเพื่อนสนิทที่เหลืออยู่รูปเดียวในพระสงฆ์ ๖ รูปที่ไปปฏิญาณตนต่อกันว่า "จะทำหน้าที่เพื่อพระพุทธศาสนาจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่" ซึ่งทั้ง ๖ รูปนั้น ปัจจุบันก็เหลือกันอยู่แค่ ๒ รูปนี้เท่านั้น ให้ท่านซึ่งแข็งแรงกว่าอยู่ร่วมงานต่อไป

กระผม/อาตมภาพก็เดินฝ่าสายฝนไปขึ้นรถ เปียกปอนไปทั้งตัว จนกระทั่งนั่งรถมาอีกประมาณ ๓ ชั่วโมง ถึงร้านสมนึกการบัญชีตอน ๖ โมงเย็นเศษ ผ้าจีวรที่เปียกก็แห้งคาตัวไปแล้ว มาถึงทางด้านนี้ ญาติโยมรอกันอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แต่รีบฉันยาแล้วก็รับสังฆทาน เมื่อให้พรเสร็จเรียบร้อย ก็ขอร้องให้ญาติโยมกลับ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่ไหวแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2022 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา