ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-09-2022, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,899 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามืด กระผม/อาตมภาพก็ได้ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน

การบวงสรวงนั้นได้ทำต่อหน้ารูปหล่อของหลวงปู่เพิ่ม (นะสีเล) อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน เพื่อที่จะขออนุญาตในการจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ และขออนุญาตสร้างรูปหล่อสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก ประจำมณฑปหน้าอาคารปฏิบัติธรรม ของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนนทบุรีแห่งที่ ๑๕ (วัดอุทยาน) แล้วหลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้นำพระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั้งหลาย ร่วมกันภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ

โดยที่ในพิธีนี้ พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ได้ทำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีด้วย กระผม/อาตมภาพเมื่อเห็นองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้านลอยอยู่เหนือบริเวณพิธี สว่างยิ่งกว่าพระจันทร์วันเพ็ญเป็นร้อยเท่า ก็กราบถวายความไว้วางใจ แล้วแต่พระองค์ท่านจะสงเคราะห์ ตนเองก็เข้าสมาธิยาวไปเลย จนกระทั่งพระองค์ท่านบอกว่าพอแล้วก็คลายสมาธิออกมา พรมน้ำมนต์รอบวัตถุมงคลในพิธี จากนั้นก็มาร่วมการภาวนาพระคาถาเงินล้านต่ออีกประมาณ ๔๐ นาที

การภาวนายาว ๆ แบบนี้ หลายท่านที่อยู่ในบริเวณพิธีก็ดี ฟังอยู่ทางบ้านและตั้งใจภาวนาพระคาถาตามไปด้วยก็ตาม ด้วยความที่ท่านเอาแต่เข้าสมาธิอย่างเดียว จึงเกิดอาการเหมือนกับหม้อแบตเตอรี่เต็ม ใกล้จะระเบิด มีอาการเครียด โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเครียดอีกด้วย

ในเรื่องของการปฏิบัติสมาธิภาวนานั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติโดยการเคลื่อนไหว อาการเครียดทั้งหลายเหล่านี้ก็จะไม่มี เพราะว่าไม่ว่าจะปฏิบัติไปนานเท่าไรก็ตาม ก็มีการถ่ายเทพลังงานไปที่การเคลื่อนไหวบ้าง ที่การพินิจพิจารณาบ้าง แต่ว่าท่านทั้งหลายสมถะก็นิ่งอยู่อย่างเดียว พิจารณาก็ไม่ทำ จึงเกิดอาการตัน เพราะว่าสะสมพลังงานเต็มแล้วไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อ

ถ้าในลักษณะแบบนี้อันตรายมาก เพราะว่าท่านทั้งหลายอาจจะพบกับอาการที่กิเลสฉกฉวยเอากำลังสมาธิที่ท่านทำได้ ฟุ้งซ่านไปใน รัก โลภ โกรธ หลงแทน เนื่องจากว่าท่านไม่ยอมเอาไปคิดพิจารณาในวิปัสสนาญาณ ในเมื่อกำลังเหลือเฟือ โดนกิเลสดึงเอาไปรัก โลภ โกรธ หลง แทน ก็จะฟุ้งซ่านอย่างเป็นจริงเป็นจัง เป็นหลักเป็นฐานมาก

ถ้าอยู่ในสภาพนั้นก็ต้องบอกว่า "เวรกรรม" เพราะว่าเท่ากับท่านเลี้ยงเสือเอาไว้กัดกินตนเอง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงโดนเสือกินจนหมดตัวในลักษณะแบบนั้น ? แปลว่าเราเลี้ยงโจรเอาไว้ปล้นตนเอง เพราะว่าสะสมกำลังเอาไว้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไรต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2022 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา