ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 17-05-2022, 01:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,658 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อสุดท้าย อนวัชชสุข สุขจากการทำงานที่ไม่มีโทษ ไม่ต้องกลัวคนอื่นเขาจะรู้ว่าเรา "ขายแป้ง" เกี่ยวกันหรือเปล่า ? ก็ไม่รู้ เห็นเขาบอกว่า "มันคือแป้ง..!" เราไม่ขายแป้ง เราก็ทำงานที่ไม่มีโทษ ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะโดนกฎหมายลงโทษ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสุขของการมีทรัพย์ สุขของการจ่ายทรัพย์ สุขของการไม่เป็นหนี้ สุขของการทำงานที่ไม่มีโทษนั้น พระองค์ท่านตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า คิหิสุข สุขของคฤหัสถ์ ใช้คำว่า สุขของปุถุชนดีกว่า เพราะปุถุชนแปลว่า คนที่หนาไปด้วยกิเลส

ในเมื่อพระองค์ท่านระบุเอาไว้ชัดเจนว่า เป็นสุขของปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส เราทั้งหลายที่ตั้งใจจะเป็นกัลยาณชน บุคคลผู้ทรงศีลทรงธรรม จะเป็นอริยชน บุคคลผู้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียว ไม่มีวันตกต่ำ เราก็ต้องพยายามหักห้ามใจของตนเองไว้

ท่านที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนบ่อย ๆ ก็มักจะได้ยินที่กระผม/อาตมภาพย้ำว่า "ไปตลาดแล้วอย่าไปหลงระเริง อย่าไปอยากกินโน่นกินนี่ ให้กลับมากินอาหารห่วย ๆ ที่วัดตามเดิม..!" จะดูว่าพวกเราสามารถห้ามปากตัวเองได้ไหม ? ถ้าห้ามปากตัวเองได้ ก็สามารถรักษาศีลได้ทุกข้อ เพราะว่ากำลังใจในการห้ามปากตัวเอง กับกำลังใจในการหักห้ามใจไม่ให้ละเมิดศีล เป็นกำลังใจที่เท่ากัน

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเราหักห้ามปากและใจตนเองได้ ศีลมีกี่ข้อก็รักษาได้หมด กิเลสใหญ่น้อยแค่ไหนมาชวน เราก็ไม่ไหลตามไป ถ้าอย่างนั้นเราก็จะพ้นจากฆราวาสผู้เป็นปุถุชนหนาด้วยกิเลส พัฒนากาย วาจา ใจของตนเอง ขึ้นมาเป็นอริยชน ถ้ายังเป็นอริยชนทีเดียวไม่ได้ มาครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็ยังเป็นกัลยาณชน คนดีของสังคมได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2022 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา