ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 06-03-2021, 20:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,940 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะว่าไปแล้วกำลังใจระดับนี้ ความจริงกำลังใจต่ำกว่าระดับที่ยกกำลังใจขึ้นไปกราบพระบนนิพพาน และระดับที่พิจารณาวิปัสสนาญาณในขณะที่สวดมนต์ไปด้วย แต่เป็นกำลังใจที่กำหนดได้ยากกว่ามาก ดังนั้น...อาตมภาพจึงจัดเป็นระดับที่เจ็ด ระดับสุดท้าย

ญาติโยมทั้งหลายเมื่อได้ฟังแล้ว ถ้าหากว่าตั้งใจที่จะประพฤติปฏิบัติตามในลักษณะเดียวกัน ก็ขอให้ลงมือทำเสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซักซ้อมความพร้อมเอาไว้ทุกครั้ง อาตมาไม่ได้ต้องการมาก ต้องการให้ทุกคนมีความคล่องตัวแค่ในระดับสาม ก็เรียกว่าเพียงพอที่จะอาศัยกินไปได้ตลอดชาตินี้และชาติหน้าแล้ว

เนื่องจากว่าการที่เราสามารถสวดมนต์ไปด้วย ทรงฌานในระดับต่าง ๆ ที่เราต้องการไปได้ด้วย ทำให้มีความคล่องตัวในการเข้าออกสมาธิ ที่เรียกว่า ความคล่องตัวในการเข้าสมาธิ คือ สมาปัชชนวสี หรือ ความคล่องตัวในการออกจากสมาธิ คือ วุฏฐานวสี แล้วเรายังสามารถปรับเป็นการทรงฌานตั้งเวลา สามารถกำหนดจะเข้าสู่ฌานไหนก็พิจารณาเข้าได้ตามใจนึก เป็นต้น ก็จะช่วยให้การประพฤติปฏิบัติธรรมของเรานั้น มีความมั่นคง สามารถที่จะต่อสู้กับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง

ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-03-2021 เมื่อ 14:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา