ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 18-12-2021, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการขัดเกลาตนเอง ถ้าเรายังขาดความยุติธรรมก็ต้องพยายามฝึกหัดให้มีความยุติธรรม จิตใจประกอบไปด้วยอคติ ก็ต้องพยายามละอคติเหล่านั้นเสีย ไม่เช่นนั้นแล้วแค่หลักธรรมในเบื้องต้น เราเองยังไม่สามารถที่จะทำให้ดีทำให้ถูกได้ จะไปหวังอะไรกับความหลุดพ้นซึ่งเป็นหลักธรรมเบื้องปลายที่ละเอียดกว่านี้หลายเท่า

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว พวกเราที่ถือว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม ต้องตระหนักรู้ด้วยตนเอง ต้องมีสามัญสำนึก ก็คือสามัญสำนึกหรือว่ามโนธรรม จะบอกกับเราเองว่าสิ่งนี้ถูกหรือผิด ต่อให้ไม่มีข้อห้าม ไม่มีระเบียบวินัย ก็ยังรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

ดังนั้น...บุคคลที่มีมโนธรรมประจำใจ ก็มักจะละอายชั่วกลัวบาปไปเองอัตโนมัติ รู้ว่ากระทำสิ่งหนึ่งประการใด ถ้าหากว่าไม่ดีไม่งาม ตนเองอาจจะเดือดร้อนจากการกระทำนั้น ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็พยายามที่จะระมัดระวังกาย วาจา ใจ ของตน ให้อยู่ในกรอบของศีล ๕ ศีล ๘ กรรมบถ ๑๐

คนเราไม่ต้องวัดกันมาก วัดกันตรงศีลก็พอ ที่เดือดร้อนกันทั่วถ้วนอยู่ทุกวันนี้ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วบกพร่องในศีล ในเมื่อหลักการเบื้องต้นของการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น แค่ศีลยังไม่สามารถที่จะทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ จะไปหวังอะไรกับสมาธิและปัญญาที่สูงไปยิ่งกว่านั้น

ถ้าสำหรับคนทั่ว ๆ ไป อาจจะคิดว่าศีลแค่นั้นทำไมจะรักษาไม่ได้ นั่นเป็นแค่ "การคิดว่า คาดว่า" ต้องลงมือทำ ถึงจะรู้ว่าการรักษาศีลนั้นยากลำบากแค่ไหน

เมื่อสิ่งที่มายั่วยวนใจให้เราละเมิดศีลอยู่ตรงหน้า เราสามารถที่จะควบคุมตนเองไม่ให้ละเมิดศีลได้หรือไม่ ? ไม่ใช่ว่าชีวิตนี้ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย แล้วถือว่าเราเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ แบบนั้นไม่ใช่ ศีลจะมีขึ้นได้ ต่อเมื่อมีโอกาสละเมิดศีลแล้วหักห้ามใจตนเองได้ ถึงจะนับว่าเป็นศีลอย่างแท้จริง

ดังนั้น...วันนี้ในส่วนที่ประสบพบเห็นมาก็ดี หรือว่าที่นำมาบอกกล่าวกับพวกเราทั้งหลายก็ตาม แม้ว่าจะเป็นการปฏิบัติในเบื้องต้นเพื่อความหลุดพ้น ก็อย่าได้ประมาท และอย่าได้ดูถูกในเรื่องของศีล เราอาจจะคิดว่ารักษาได้ง่าย เพราะว่าเราทำเกินนั้นไปแล้ว แต่เราต้องระมัดระวังด้วย อย่าให้ตายเพราะ "หญ้าปากคอก" ก็คือของง่าย ๆ แต่พลาดแล้วพลาดเลย

อย่างเช่นว่าถ้าเป็นฆราวาสก็อาจจะเผลอทำอนันตริยกรรม ถ้าเป็นพระก็อาจจะต้องอาบัติปาราชิก สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เท่ากับท่านเสียชาติเกิดไปฟรี ๆ ๑ ชาติ..! เพราะว่าเป็นเรื่องของการปิดมรรคปิดผลไปเลย ชีวิตนี้ปฏิบัติให้ตาย โอกาสที่จะเข้าถึงมรรคผลก็เป็นไปไม่ได้

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2021 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา