วันนี้มีคำถามมาว่า มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง มีวัตถุมงคลจำนวนหนึ่งที่เป็นของส่วนตัว ได้เล่าให้พระรูปหนึ่งฟังว่า จะเปิดให้บูชาวัตถุมงคลเพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินถวายวัดส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะได้เอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะว่ายังมีภาระอยู่
พระรูปนั้นได้ฟังแล้ว ก็ขอบูชาวัตถุมงคลไปทุกชิ้น แล้วไปประกาศในเฟซบุ๊ก ขอเชิญญาติโยมร่วมทำบุญซื้อที่ดินถวายวัด พอได้ปัจจัยมาก็ไปมอบให้โยมเจ้าของวัตถุมงคล แล้วถ่ายรูปตอนมอบเงิน เพื่อยืนยันในเฟซบุ๊กให้ผู้ทำบุญเห็นว่าได้ทำจริง ๆ แต่ปิดบังเรื่องวัตถุมงคลเอาไว้ คำถามคือ พระรูปนั้นมีโทษอย่างไรบ้างครับ ?
พวกคุณตัดสินโทษได้ไหม ? คือ ถ้าเจตนาปิดบังเพื่อเอาวัตถุมงคลเป็นของตัวเอง ก็แปลว่า ต้องอาบัติปาราชิก (ขาดความเป็นพระ) ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าวัตถุมงคลอย่างไรก็ราคาเกิน ๑ บาท กรรมนั้นสำเร็จลงแล้ว ถ้าหากว่าไม่ได้มีเจตนาปิดบัง ก็ไม่สมควรที่จะทำเช่นนั้นอยู่ดี เพราะว่าไม่โปร่งใส ถ้าไม่มีเจตนาปิดบัง แล้วทำไมไม่บอกกล่าวให้ชัดเจนว่าเจ้าของเขาให้ทำบุญนี้ แล้วจะได้รับวัตถุมงคลเป็นของตอบแทน ?
เรื่องพวกนี้ กระผมขอเตือนท่านทั้งหลายนะครับว่า ให้รักความเป็นพระของเราให้มาก เพราะว่าถ้าพลาดเมื่อไร เราจะขาดจากความเป็นพระไม่รู้ตัว อยู่ต่อก็มีโทษมาก สึกหาลาเพศไป ถ้าต้องอาบัติปาราชิกติดตัวไป ทำอะไรก็ไม่เจริญ ผมสังเกตดูมาเยอะแล้ว
ดังนั้น...เรื่องของเงินต้องโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกวันนี้ท่านเห็นว่าผมยอมลำบากทำบัญชีเอง ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันนี้สายตาก็ไม่ค่อยดีแล้ว เพราะผมมั่นใจตัวผมเองว่าไม่โกงแน่นอน สตางค์เดียวก็ไม่เอา ถ้ายอดไม่เต็มผมเติมให้ด้วย แล้วการทำบัญชีโดยคอมพิวเตอร์มีการแก้ไขตัวเลขทุกวันครับ อย่างเช่นเงินสังฆทาน ถ้าเข้ามาแล้วก็ต้องบวกเข้าไป บวกเข้าไป จนกว่าจะสิ้นเดือนค่อยตัดบัญชีครั้งหนึ่ง ถ้าคนอื่นทำนี่ มั่นใจไหมครับว่าจะไม่โกง ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-11-2021 เมื่อ 06:46
|