ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 31-07-2021, 23:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,401,180 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผมเองก็พยายามสังเกตกำลังใจตัวเอง ไม่มีอะไรตกนี่หว่า ? สมาธิสมาบัติก็ยังคล่องตัวเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าพอสังเกตนานไป แล้วถึงได้รู้ว่ากำลังใจตกจริง ๆ ครับ จากที่ก่อนหน้านี้เห็นใครลำบากไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าไปช่วยเขา เดี๋ยวนี้ผมใช้คำว่า "ถ้าไม่ได้มาล้มทับตีนอยู่ตรงหน้าจนผมไปไหนไม่ได้ ผมก็ไม่ช่วยใครแล้ว" งานยังเหมือนเดิม ก็คือยังทำอยู่ แต่จำกัดเขตลงมาเยอะมากเลยครับ

หลายท่านถ้าย้อนหลังไปหลายปีจะเห็นว่า บางทีผมทำการก่อสร้างทีละ ๒ วัด ๓ วัดพร้อม ๆ กัน สนุกสนานเฮฮามากกับการที่วิ่งหาเงินมาเพื่อสร้างวัด แต่ตอนนี้แทบจะเหลืออยู่แค่นี้ครับ คำว่าแค่นี้ก็คือเฉพาะภายในวัดท่าขนุน ที่อุตส่าห์พยายามสงเคราะห์ญาติโยมเขาต่อไป ก็เพราะว่าญาติโยมลำบากจริง ๆ ไม่อย่างนั้นผมก็จะจำกัดงานอยู่แค่ภายในวัดท่าขนุนนี้แค่นั้น

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่มองงานตรงจุดนี้ เราต้องเข้าใจว่า ในเรื่องของพรหมวิหาร ๔ โดยเฉพาะ เมตตา กรุณา ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมานั่งแผ่เมตตาเฉย ๆ ต้องลงมือทำเท่านั้น ถึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง การแผ่เมตตาอย่างเดียว ผมอยากจะบอกว่าเป็นแค่จินตนาการครับ แต่ถ้าลงมือทำนี่ของจริง กำลังใจจากจินตนาการของเราเยือกเย็น พร้อมสงเคราะห์ ในเมื่อพร้อมสงเคราะห์ ก็ทำให้สมกับที่พร้อมสิครับ ไม่ใช่แค่ว่า "เราพร้อม..เราพร้อม..เราพร้อม" แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย

จึงฝากข้อคิดเอาไว้สำหรับพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายที่ติดตามฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2021 เมื่อ 17:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา