ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 14-10-2021, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,533 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อวันนี้เป็นวันระลึกถึงวันคล้ายวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ กระผม/อาตมภาพก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนเป็นฆราวาสไม่ดูหนังฟังเพลง แต่ถ้าเป็นข่าวในพระราชสำนักจะดู มีอยู่วันหนึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแนวพระราชดำริให้กับข้าราชการที่ตามเสด็จว่า "ลองไปศึกษาดูว่าต้นไม้แต่ละประเภท ที่ใบใหญ่ ใบเล็ก ใบกลม ใบยาว คายออกซิเจนและรับคาร์บอนไดออกไซด์มากน้อยเท่าไร ?" คาดว่าพระองค์ท่านคิดโครงการอะไรในลักษณะของการที่จะสามารถปรับปรุงสภาพอากาศได้ แต่ปรากฏว่าผู้ตามเสด็จตอบทันควันว่า "ทำไม่ได้หรอกครับ"

กระผม/อาตมภาพเห็นสีพระพักตร์ของพระองค์ท่านอย่างชัดเจนเลย แม้ว่าสมัยนั้นจะเป็นโทรทัศน์ขาวดำ ก็คือสีพระพักตร์ประมาณว่า "เหนื่อยใจฉิบหายเลย..!" แล้วพระองค์ท่านก็ตรัสว่า "ที่บอกว่าทำไม่ได้นั้น ได้ลองทำแล้วหรือยัง ?"

นี่คือลักษณะในสิ่งที่กระผม/อาตมภาพมองดูแล้ว พระเณรของเราก็แบบเดียวกับข้าราชการตามเสด็จ ซึ่งถ้าเป็นตัวกระผม/อาตมภาพเอง ได้รับพระราชดำริแบบนั้น ก็คือทำถวายด้วยชีวิต สำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าข้าราชการทั้งหลายเหล่านั้น พอเห็นว่ามีทางที่จะได้งานยากก็ปฏิเสธทันที ทำให้โครงการดี ๆ โครงการหนึ่งที่ทรงพระราชดำริเอาไว้ไม่ปรากฏขึ้นมาในโลก

แบบเดียวกับหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรารู้ว่าดีแค่ไหน วิเศษแค่ไหน ทำเมื่อไรก็เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และคนรอบข้างอย่างไร แต่แทนที่เราทั้งหลายจะตั้งหน้าตั้งตาทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง เอาตนเองเป็นเครื่องพิสูจน์ เมื่อเกิดผลแล้วจะได้บอกต่อผู้อื่นอย่างเต็มปากเต็มคำ แต่ปรากฏว่าพวกเรากลับทำในลักษณะ "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง"

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมรณภาพ หรือว่าตายลงไปเมื่อไรแล้วจะเสียดายเวลา เพราะว่าการเวียนว่ายตายเกิดแต่ละชาตินั้นทุกข์ไม่รู้จบ ต้องบอกว่าถ้ามองเห็นตั้งแต่ต้นยันปลาย มีปัญญาเพียงพอจะเห็นว่า ความทุกข์มันยาวนานเหลือที่จะทน ผู้ที่ฉลาดก็ต้องรีบดิ้นรนเพื่อที่จะให้พ้นจากกองทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ใช่ไปนอนกลิ้งอยู่ด้วยความสบายใจว่าจะไปเมื่อไรก็ได้ "ไอ้จะไปเมื่อไรก็ได้นั้น มั่นใจแล้วหรือว่าจะไปได้ !?"

วันนี้ก็ขอฝากข้อคิดเอาไว้สำหรับพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2021 เมื่อ 04:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา