"๑. ให้แต่ละวัดสามารถนำรายได้ (เงินออมที่ประชาชนอดออมบริจาคไว้ที่วัดและพระ) ที่สะสมไว้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ใช้ดำเนินกิจการเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน
กิจการดังกล่าวอาจจะดำเนินการเอง ร่วมกับกรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา และคนในชุมชน กำหนดกิจกรรมตามความต้องการและจำเป็นของท้องถิ่นต่าง ๆ ทั้งนี้จะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้"
ความเห็นส่วนตัว : ฟังดูดีสมกับภูมิปริญญาเอก แต่เหมือน "กบในกะลาครอบ" ชัด ๆ ไม่ได้ลืมตาดูว่าโลกภายนอกกะลาเขาไปถึงไหนกันแล้ว
วัดหรือพระภิกษุสามเณรช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตการณ์นี้ ออกสื่อจนนับไม่ถ้วน นอกจากคนหูหนวกตาบอดแล้ว คนหูดีตาดีทั่วไปน่าจะได้เห็นบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องของเงินวัด เงินสงฆ์ หรือว่าเงินที่ประชาชนบริจาคเป็นการกุศลนั้น มีกฎหมายในการบริหารจัดการศาสนสมบัติ ระบุวิธีการใช้เอาไว้แล้ว ว่าต้องเป็นไปตามเจตนาของผู้บริจาคเท่านั้น
ท่านอุตส่าห์เรียนจนจบด็อกเตอร์มา แต่เรื่องแค่นี้กลับไม่ได้ศึกษา หลับหูหลับตาพูดเหมือนเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่พระ ซ้ำยังให้กระทำอย่างโปร่งใส เพื่อให้ดูว่าท่านเป็นคนดีอีกด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-04-2020 เมื่อ 07:46
|