"เมื่อไปศึกษาวิชาทหาร สิ่งหนึ่งที่ต้องทำอยู่ทุกเช้าก็คือ การปฏิญาณตนหน้าเสาธงว่า "ไม่มีอะไรที่ทหารทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ทหารทำไม่ไหว ไม่มีอะไรที่ทหารทำไม่ทัน" ตอกย้ำอยู่ทุกวันเหมือนกับเป็นการสะกดจิตตัวเองว่า ทุกอย่างต้องได้ ทุกอย่างต้องไหว ทุกอย่างต้องทัน
เมื่อมาศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านครูบาอาจารย์ผู้เป็นพระสุปฏิปันโนหลายท่าน ทุกท่านล้วนแล้วแต่ทุ่มเทกายใจให้กับงานของพระพุทธศาสนา ทำแบบเอาชีวิตเข้าแลก ทำแบบคนที่มีวันนี้วันเดียว ทำสมกับที่ได้ปฏิญาณว่า "ขอมอบกายถวายชีวิตนี้ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
แม้แต่ครูบาอาจารย์ที่อาตมาเคารพรักที่สุดอย่างหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง องค์ท่านก็ทำเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การรักงานพระศาสนายิ่งกว่าชีวิตนั้นเป็นอย่างไร
แม้ในวันสุดท้ายที่พระทั้งวัดไปกราบท่าน เพราะทราบดีว่าถ้าไม่มากราบในวันนี้ ก็จะไม่มีโอกาสได้กราบองค์ท่านในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่อีกแล้ว แม้ว่าท่านจะมองเห็นไม่ชัดเจนว่าใครเป็นใคร ก็ยังเอ่ยปากว่า "เมื่อกราบแล้วก็ไปทำงานต่อ ใครมีหน้าที่อะไรจงรับผิดชอบให้ดี"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2020 เมื่อ 06:19
|