ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 03-01-2023, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,596
ได้ให้อนุโมทนา: 151,775
ได้รับอนุโมทนา 4,412,002 ครั้ง ใน 34,186 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ว่าจะเคยฟังรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมมาหรือไม่ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายทราบว่า อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรมมีมากกว่านั้น ไม่ใช่มีแค่ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ประโยชน์เฉพาะหน้าเห็นทันตาในชาตินี้ หรือว่าสัมปรายิกัตถประโยชน์ ประโยชน์ที่จะได้เห็นในชาติต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะความมั่นคงในสุคติภูมิของเรา

หากแต่ว่ายังมีปรมัตถประโยชน์ ประโยชน์สูงสุดที่เราจะพิจารณาข้อธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยกำลังของสมาธิภาวนาที่เกิดจากกองกรรมฐาน

ท่านทั้งหลายที่ฟังมาถึงตรงนี้ บางท่านที่ปฏิบัติมาในวิปัสสนาล้วน ๆ อาจจะเกิดความมึนงง สงสัย หรือว่าท่านที่ปฏิบัติมาในด้านของสมถภาวนาล้วน ๆ ก็อาจจะงงเช่นกัน

กระผม/อาตมภาพขอบอกกล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า สมถกรรมฐานก็ดี วิปัสสนากรรมฐานก็ตาม เหมือนคนที่โดนผูกขาติดกัน เมื่อท่านปฏิบัติสมถกรรมฐานไปแล้ว ก็เหมือนกับเราก้าวเท้าซ้ายขึ้นหน้า เมื่อถึงเวลาแล้ว ถ้าเราไม่ก้าวเท้าขวาที่โดนผูกติดเอาไว้ คือวิปัสสนากรรมฐานตามไป เราจะฝืนสักเท่าไรก็ไปต่อไม่ได้ และถ้าก้าวแรงเกินไป ก็อาจจะสะดุดหกล้ม หรือว่าโดนเชือกที่ผูกอยู่นั้นกระตุกกลับมาที่เดิม

ท่านจะต้องภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว จึงค่อยพิจารณาวิปัสสนากรรมฐาน เหมือนกับเราก้าวเท้าซ้ายแล้วก็ก้าวเท้าขวาตามไป เมื่อก้าวเท้าขวาแล้วก็ก้าวเท้าซ้ายตามไปอย่างนี้อีก จนกระทั่งหมดกำลัง คำว่า "หมดกำลัง" ในที่นี้ก็คือสมาธิไม่พอเพียงที่จะดำเนินการพิจารณาต่อ เราก็กลับมาภาวนาใหม่ เมื่อภาวนาจนกำลังทรงตัวแล้ว เราก็พิจารณาอีก สลับกันไปสลับกันมาดังนี้ จึงจะสามารถที่จะทำให้ก่อประโยชน์แก่ตนได้รวดเร็ว


แต่ถ้าหากว่าท่านกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมั่นใจตามที่ครูบาอาจารย์สอนมา ก็คือว่าเราพิจารณาวิปัสสนากรรมฐานอย่างเดียว ถึงเวลาสะสมกำลังไปมากเข้า..มากเข้า เราก็จะมีกำลังเพียงพอในการตัดกิเลสได้

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เรียกว่า ในส่วนของท่านสามารถบรรลุได้แบบที่เรียกว่า ปัญญาวิมุติ คือใช้ปัญญาในการพิจารณาธรรม แต่ท่านก็จะต้องผจญกับกำลังของกิเลสที่ก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง แทรกเข้ามาอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2023 เมื่อ 09:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา