ชื่อกระทู้: เกิดผิดยุคผิดสมัย
ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 17-02-2010, 13:10
มุนินโท มุนินโท is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 733
ได้ให้อนุโมทนา: 22,386
ได้รับอนุโมทนา 61,847 ครั้ง ใน 1,100 โพสต์
มุนินโท is on a distinguished road
Default เสริม

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
อ่านประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าแล้ว พวกเราเห็นภาพพจน์ของพระมหาอุปราชาไปในลักษณะไหน? แพ้ทั้งปี..

มังสามเกียด ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าหากไม่ได้เกิดยุคเดียวกับพระนเรศวร ท่านคงประสบความสำเร็จมาก ไปนึกถึงพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต ศึกษาวิชาอยู่กับอาจารย์ทิศาปาโมกข์เดียวกัน อาจารย์ก็จะชมว่าเทวทัตนั้นเก่ง แต่สิทธัตถะเก่งกว่าประจำเลย เขาเรียกว่าเกิดผิดยุค ถ้าต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันก็ดังทั้งคู่ แต่นี่ต้องมาเกี่ยวดองกัน ก็เลยกลายเป็นถูกตีว่าแพ้ตลอด

แต่ถ้าเราพิจารณากันให้ดี ๆ ต้องบอกว่าพระมหาอุปราช ฝีมือท่านพอตัวเลย เพราะว่าทันทีที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พระองค์ก็ยกทัพบุกหงสาวดีเลย ปรากฏว่าพระเจ้านันทบุเรงไม่อยู่ ยกทัพไปตีเมืองอังวะ คนที่เฝ้าหงสาวดีก็คือ พระมหาอุปราช พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับ ถ้าอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม ก็แปลว่าฝีมือของท่านอยู่ในระดับที่น่าเกรงขามทีเดียว ถ้าหากว่ากันตามประวัติศาสตร์ พระมหาอุปราชชนไก่ก็แพ้ ออกรบก็แพ้ ตีเมืองคังก็แพ้
ย้อนไปดูประวัติศาสตร์จีน ยุคสามก๊ก ก็ต้องเข้ากับประโยคที่จิวยี่หลุดปากออกมาก่อนตายว่า "ฟ้าส่งจิวยี่มาเกิด ไฉนไยต้องส่งขงเบ้ง (จูกัดเหลียง) มาด้วย

แม่ทัพจิวยี่ นับว่าเป็นขุนพลยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ดันมาเกิดเจอคู่ปรับ ทำให้ผูกปีแพ้ตลอดศก จึงสะกดคำว่าชนะขงเบ้งไม่เป็น รบคราใด ก็แพ้ครานั้นทุกที...(สำนวนมวยไทยก็ต้องบอกว่าแพ้ทางมวย)

น่าจะพอกล้อมแกล้มเข้ากับเรื่องเกิดผิดยุคผิดสมัยได้...

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2014 เมื่อ 12:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มุนินโท ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา