พระอาจารย์กล่าวว่า "ตุนน้ำกินน้ำใช้ไว้บ้างนะ ค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปโหมทำทีเดียว อย่างเช่นว่าซื้อน้ำไว้สักอาทิตย์ละห่อ ทยอยเก็บ ๒ - ๓ เดือนก็มีมากจนพออาบแล้ว น้ำอาบก็ใส่ถัง ถังพลาสติก ๕๐ ลิตร ๑๐๐ ลิตร ตุนเอาไว้สัก ๒ - ๓ ถัง ถึงเวลาขาดน้ำจะได้มีใช้ เพราะว่าตอนนี้น้ำจืดหายาก
ในเมื่อน้ำจืดไม่มีลงไปดัน น้ำทะเลก็หนุนสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ ถึงเวลาเขาดูดไปทำน้ำประปาก็ออกรสเค็ม ดื่มไม่ได้ ใช้ไม่สะดวก มีใครเคยใช้น้ำฟอกสบู่แล้วไม่รู้สึกว่าลื่นบ้าง ? อาตมามีประสบการณ์นั้นมาแล้ว ฟอกไปนี่สบู่ละลายเฉย ๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความลื่นของสบู่ติดตัวเลย เพราะว่าเป็นน้ำกร่อยจัดจนออกไปทางเค็ม
พวกโยมยังโชคดีไม่มีประสบการณ์โหดเหมือนกับอาตมา ที่ตื่นขึ้นมากรองน้ำตอนตีสอง ได้น้ำพอหุงข้าวตอนตีห้า..! ยุคสมัยนั้นอะไร ๆ ก็ยากไปหมด ถ้าจะซักผ้าโน่น...ต้องเปิดน้ำให้หยดติ๋งไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน กว่าจะได้พอซักผ้าก็สี่ทุ่มห้าทุ่ม ข้าวสารก็ต้องปันส่วน ก็คือจะมีบัตรว่าแต่ละบ้านให้ซื้อข้าวได้กี่กิโลกรัม แล้วก็เป็นข้าวที่ปนข้าวเหนียว ๓๐ % อีกด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2021 เมื่อ 02:50
|