พระอาจารย์กล่าวว่า "งานทำบุญ ๕ รอบของอาตมามีการบวชพระ ๑๐๘ รูป แต่รับสมัครนาคเอาไว้ ๑๑๐ ท่าน สำรองไว้ ๒ ท่าน เผื่อว่ามีใครติดภารกิจเร่งด่วนถอนตัวไป ๒ ท่านนี้จะได้เข้าไปแทน ต้องบอกว่า ๒ ท่านนี้เป็นผู้เสียสละอย่างมาก เพราะว่าโอกาสที่จะได้บวชมีน้อยมาก แต่ก็ยังอุตส่าห์สมัครเข้ามา
ก่อนหน้านี้ทางด้านคู่สวดยังไม่พร้อม ไม่มีความคล่องตัว การบวชแต่ละครั้งก็บวชช้า เดี๋ยวนี้สามารถที่จะประกันได้ว่าชั่วโมงหนึ่งได้ไม่ต่ำกว่า ๔ ชุด ถ้า ๔ ชุดก็เท่ากับ ๑๒ รูป ชั่วโมงหนึ่งได้ ๑๒ รูป ๙ ชั่วโมง ๑๐๘ รูป...หมดพอดี เราเริ่มบวชตั้งแต่เช้า ๖ โมงครึ่งถึง ๑๐ โมงครึ่ง ๔ ชั่วโมงได้ ๔๘ รูปก็พักไปฉันเพล บางวันอาตมาก็ลากยาวเลย จนกระทั่ง ๑๑ โมงครึ่งแล้วค่อยไปฉันเพล ก็ได้เพิ่มมาอีกประมาณ ๖ รูป ช่วงเช้าจึงน่าจะอยู่ที่ ๕๔ รูป ตอนช่วงบ่ายเที่ยงครึ่งก็เริ่มลงมือ น่าจะประมาณไม่เกิน ๔ โมงเย็นหรือ ๕ โมงเย็นก็ได้พระครบถ้วน
ปัจจุบันนี้ทางมหาคณิสสร ซึ่งเป็นคณะทำงานที่มีอำนาจรองลงมาจากมหาเถรสมาคม มีมติให้พระฝ่ายมหานิกายบวชแบบอุกาสะฯ ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมมา แล้วมาโดนเปลี่ยนโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ให้บวชแบบเอสาหังฯ ซึ่งเป็นการบวชแบบพระธรรมยุต แต่ก็ยังมีบางวัดที่ยึดแบบอุกาสะฯ อยู่ เมื่อบวชแบบเอสาหังฯ กันทั้งประเทศ พอเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบอุกาสะฯ ก็ยากแล้ว
อย่างกาญจนบุรีตอนนี้ก็มีวัดท่าขนุนที่บวชแบบอุกาสะฯ เต็มรูปแบบ เพราะว่าพระอุปัชฌาย์คู่สวดบวชแบบนี้ได้หมด ส่วนวัดอื่น ๆ พระอุปัชฌาย์ฝึกซ้อมแบบอุกาสะฯ มา คู่สวดบวชแบบเอสาหังฯ มาตลอด ก็ประสาทรับประทานกันไปข้างหนึ่ง ปรับสมองกันไม่ไหว ก็ต้องบวชแบบเอสาหังฯ กันต่อไป"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2019 เมื่อ 02:08
|