"มีอยู่ช่วงหนึ่ง ๒ ปีโดยประมาณ อาตมานอนคืนหนึ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงเท่านั้น นอกนั้นพายเรือไล่จับคนหาปลา วังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงเกิดขึ้นได้เพราะอาตมาเอง ป้องกันสุดชีวิต ไม่มีใครคิดว่าพระจะพายเรือทั้งคืน แต่อาตมาพายไปภาวนาไป
จะว่าไปช่วงนั้นผอมแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แต่สภาพจิตมีความสุขมาก เพราะว่าทรงฌานทั้งวันทั้งคืน กิเลสกินไม่ได้ มีอยู่วันหนึ่งได้ยินเสียงบอกเข้าหูชัด ๆ เลยในลักษณะพยากรณ์มรรคผล แล้วอารมณ์ใจตอนนั้นก็รู้สึกว่าสบายสุด ๆ ไม่มีกิเลสมาแผ้วพานได้เลย
พยายามไล่ตรวจสอบดูตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอน ก็คือเทียบกับสังโยชน์ ๑๐ ปรากฏว่าเชื่อไม่ได้ คำพยากรณ์เป็นสิ่งมาทดสอบ อารมณ์ใจตอนนั้นก็เป็นสิ่งที่มาทดสอบ เพราะพิจารณาโดยไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว สังโยชน์ ๑๐ ยังอยู่ครบทั้งสิบตัวเลย เพียงแต่กิเลสหลบไปนอนเฉย ๆ เขาสู้ความบ้าของเราไม่ได้ เพราะว่าภาวนาทั้งวันทั้งคืน ทรงฌานไม่ยอมคลาย จะหลับจะตื่นมีสติรู้เท่าหมด ในเมื่อกิเลสสู้ไม่ได้ ก็ไม่ไปไหนหรอก แค่หลบไปนอน มีปัญญามึงเต้นไป เดี๋ยวมึงเหนื่อยกูค่อยออกมา ฉะนั้น...ระวังให้ดีนะ อาตมาทำถึงขนาดนั้นยังโดนหลอกอยู่เรื่อยเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2018 เมื่อ 20:54
|