ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 02-01-2021, 09:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมส่งท้ายปี ๒๕๖๓ ของพวกเรา

วันนี้จะขอกล่าวถึงโซ่ข้อกลาง คือเรื่องของสมาธิในไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ และปัญญา เนื่องจากว่าในการปฏิบัติธรรมนั้น เรื่องของสมาธิภาวนาแทบจะเป็นคำตอบของทั้งหมด ยกเว้นอย่างเดียวก็คือ การพิจารณาเพื่อเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งจะต้องใช้ปัญญาประกอบค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องอาศัยกำลังสมาธิช่วยหนุนเสริมอยู่ดี

ฉะนั้น...ในส่วนของสมาธิ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากศีล จึงเป็นโซ่ข้อกลางอย่างชัดเจน เพราะว่าถ้าเราระมัดรังรักษาศีล ก็จะทำให้เกิดสมาธิขึ้นโดยปริยาย เมื่อเรามีสมาธิ สภาพจิตสงบ ระงับ ปัญญาก็จะเกิดขึ้น ไปพินิจพิจารณาจนกระทั่งรู้เห็นร่างกายนี้และโลกนี้ตามสภาพความเป็นจริง ก็คือสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่เที่ยง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา สมาธิจึงเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

แต่เท่าที่สังเกตดูในปัจจุบันนี้ ส่วนของสมาธิภาวนานั้น พวกเรามักจะขาด ถนัดแต่ในเรื่องของการให้ทานและรักษาศีล มากกว่านั้นก็อ้างว่าไม่มีเวลาทำบ้าง อ้างว่ากำลังไม่ถึงบ้าง ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม เป้าหมายใหญ่ของเราก็คือเพื่อความหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีแต่ทานและศีล โอกาสที่จะเข้าถึงพระนิพพานก็น้อย

ดังนั้น...จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยกำลังของสมาธิ ที่จะไปควบคุมให้ศีลของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์ เนื่องจากว่าเมื่อมีสมาธิทรงตัว สติก็จะตั้งมั่น การระมัดระวังในศีลก็ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อสติตั้งมั่น สมาธิทรงตัว ปัญญาก็จะเกิด พินิจพิจารณาเห็นตามความเป็นจริงแล้ว ยังต้องอาศัยกำลังของสมาธิ ในการถอนตัวเองออกมาจากความพอใจ จากความไม่พอใจทั้งปวง

ก็แปลว่าในส่วนของความพอใจหรือไม่พอใจก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องร้อยรัดเราให้ตกอยู่ในกองกิเลสทั้งสิ้น ดังนั้น...ในแต่ละวัน ท่านควรที่จะให้ความสำคัญกับการกำหนดรู้ โดยเฉพาะกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเพื่อสร้างสมาธิให้เกิด เมื่อกำหนดดูกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกจนเคยชิน เกิดสมาธิคือทรงฌานขึ้นมาได้ อาการที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ สามารถรู้ลมหายใจและภาวนาเองได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็เป็นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2021 เมื่อ 15:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา