ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 05-01-2022, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,314 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การที่โบราณาจารย์ให้เรากลั้นหายใจว่าคาถา อันดับแรกเลยก็คือ พอเรากลั้นหายใจก็คือใกล้ตาย สภาพจิตจะรวมตัวทำให้เกิดสมาธิสูงขึ้น คาถาก็จะมีผลมากขึ้น แต่ว่ามีข้อเสียก็คือ ถ้าหากว่าเราทำจนชิน แล้วจะมาภาวนาปกติทั่วไป เผลอเมื่อไรก็จะไปกลั้นหายใจอีก

ดังนั้น...ให้ใช้วิธีภาวนาตามปกติของเราจะดีที่สุด เพราะว่าเรื่องของการกลั้นหายใจภาวนานั้น ส่วนใหญ่ใช้ในเหตุฉุกเฉิน ประเภทอยู่ ๆ โดน "จิ๊กโก๋" รุมตีอะไรประมาณนั้น ถ้าหากว่าทั่ว ๆ ไปก็เข้าสมาธิของเราไป ว่าคาถาไป เรื่องของคาถา ชอบใจบทไหนก็ทำไปเลย เอาให้เกิดผลจริง ๆ แล้วเราค่อยขยับไปใช้คาถาอื่น

สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอน
กระผม/อาตมภาพมาก็ลักษณะอย่างนี้ กระผม/อาตมภาพโดนท่านหลอกอย่างชนิดที่ไม่รู้ตัวว่าโดน เพราะว่าท่านจะปรารภว่าคาถาบทนี้ดีอย่างนี้ ดีอย่างนี้ กระผม/อาตมภาพก็รับมา ตั้งใจจะไปทำ ท่านก็จะสำทับไปว่า "ภาวนาอย่างน้อยให้ต่อเนื่องครึ่งชั่วโมงนะ ถ้ารักษาศีล ๕ ได้บริสุทธิ์ คาถาจะยิ่งเกิดผลเร็ว"

เมื่อทำได้แล้ววิ่งไปรายงาน ท่านก็ "เออ...ดี ๆ ลูก..เอาบทนี้ไป..บทนี้เป็นอย่างนี้ ๆ มีผลแบบนี้" กว่าจะรู้ตัว โดนท่านหลอกภาวนาและรักษาศีลจนชินแล้ว เมื่อดึงกลับมาปฏิบัติกรรมฐานตามหลักวิสุทธิมรรค ก็เลยกลายเป็นของง่าย เพราะว่ามีสมาธิเป็นปกติแล้ว

ในชีวิตมีคาถาบทเดียวที่ท่านไม่ให้ คือคาถาหัวใจปลาไหลเผือก ท่านเล่าว่าสมัยวัยรุ่นท่านเคยลองให้เด็กภาวนาคาถาหัวใจปลาไหลเผือก ผู้ใหญ่ ๗-๘ คน จับไม่อยู่ ท่านบอกว่ามันดิ้นแผล็บ ๆ ๆ หลุดไปได้เรื่อย ก็เลยกราบเรียนว่า "ผมขออนุญาตเรียนคาถานี้ครับ" ท่านบอกว่า "ไม่เอา..ลูกข้าถ้าต้องหนีเขามันขายหน้า เอาหัวใจหนุมานไปดีกว่า" สรุปก็คือของท่านนี่ห้ามหนี..บอกให้สู้อย่างเดียว..!

คราวนี้ถ้าพวกเราภาวนา สิ่งที่ปรากฏอยู่เสมอก็คือว่า ระหว่างภาวนาก็ยังฟุ้งซ่านได้ ถ้าใครมีอาการอย่างนี้ จงดีใจเถอะว่า พื้นฐานในอดีตชาติของเราในเรื่องการปฏิบัติธรรมมีมามาก เพราะว่าถ้าบุคคลที่ฟุ้งซ่านระหว่างภาวนาไปด้วย แปลว่าสามารถแยกจิตทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ แบบเดียวกับที่
กระผม/อาตมภาพทำให้ดูอยู่ทุกวัน ทำวัตรไปอ่านหนังสือไป ส่วนที่ยากที่สุดก็คือ ทำอย่างไรที่จะไม่ยินดี รัก โลภ โกรธ หลง ไปตามเนื้อหาในหนังสือ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 15:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา