ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 10-03-2010, 15:31
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,886 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default การพิจารณาอสุภะ ต้องพิจารณาให้ครบวงจร

การพิจารณาอสุภะ ต้องพิจารณาให้ครบวงจร

เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ พ.ค. ๒๕๓๖ เพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติธรรมของผม ได้ยกเอาคำพูดของผมที่ว่า “เมื่อพิจารณาอสุภะแล้วก็ให้พิจารณากลับมาเป็นสุภะใหม่” มาพิจารณาหาเหตุผลเพื่อให้เกิดปัญญา ท่านบอกว่า ท่านพยายามดูร่างกายของตนเอง ซึ่งมันไม่มีส่วนไหนที่สวยงามนั้น ให้มันสวยงาม จะดูอย่างไรมันก็ไม่สวย หรือกลับมาสวยได้อีก นี่คือเรื่องที่เรา ๒ คนจะสนทนาธรรมกันในวันนี้ ผมขออนุญาตชี้แจง ความสำคัญในการสนทนาธรรมกันในวันนั้น ไว้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

๑. เพื่อนผมท่านเข้าใจผิดในเจตนาของผม ที่ผมพูดเช่นนั้นผมหมายถึง การพิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญา มิใช่พิจารณาความสกปรกของร่างกาย ซึ่งถูกของท่านแล้ว ที่มองร่างกายส่วนไหน มันก็สกปรกทั้งสิ้น จะให้มันสะอาดนั้นก็เป็นไปไม่ได้

๒. ต้นเหตุ ที่ผมพูดธรรมประโยคนั้นออกไป ก็เพราะเธอเล่าว่า ก่อนจะกินข้าว ได้ปลงอาหารให้เป็นอาหาเรปฏิกูลสัญญา จนเห็นอาหารมันสกปรกไปหมด เลยกินอะไรไม่ค่อยลง ของบางชนิดเลยกินไม่ได้เลย เช่น เนื้อหมูเป็นต้น เพราะมันจะอาเจียน (คิดเหมือนพวกแขกที่อินเดีย ซึ่งไม่ยอมกินเนื้อหมู เพราะเห็นหมูมันมากินขี้ของตนเองทุกวัน)

๓. ผมให้ใช้ปัญญา คือ ธรรมหรือกรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ ซึ่งเป็นอริยสัจอันเป็นปัญญาสูงสุดในพุทธศาสนา และมีแต่เฉพาะพุทธศาสนาเท่านั้น (กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ พระพุทธองค์ทรงรู้ถึงต้นเหตุแห่งกรรมนั้น และรู้วิธีดับกรรมนั้นด้วย)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 11-03-2010 เมื่อ 16:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา