ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-10-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,414,066 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อคืนกระผม/อาตมภาพและคณะ เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติดอนเมืองตอน ๒ ทุ่ม ก็ต้องบอกว่ายังปลอดภัยดี แล้ววันนี้ต้องเข้าประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีต่อ อยู่ในห้องปรับอากาศครึ่งค่อนวัน พักผ่อนก็ไม่พอ ทำให้อาการมาลาเรียเรื้อรังกำเริบ

มาลาเรียนั้นเป็นโรคที่มีเพื่อนมาก พอตัวเองมาก็ชักชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงทั้งหมดมาด้วย ดังนั้น..เคยเจ็บเคยป่วยด้วยอะไรไว้ ก็จะกำเริบกลับขึ้นมาใหม่ทั้งหมด กระผม/อาตมภาพซึ่งไปหกล้มที่ประเทศลาว มาถึงวันนี้บาดแผลทุกอย่างก็เลยอักเสบขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ส่วนใหญ่แล้วที่เขาตาย ๆ กันเพราะมาลาเรีย ก็คือทนการอักเสบแบบนี้ไม่ไหว

คราวนี้การประชุมคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นงานการปกครองคณะสงฆ์ ๖ ด้านที่จะต้องปฏิบัติ ติดตาม รายงานผลเป็นปกติ ไม่มีอะไรที่น่ากล่าวถึง

แต่ในระหว่างที่ประชุมอยู่นั้น กระผม/อาตมภาพต้องเข้าระบบซูม เพื่อร่วมอบรมในโครงการ Up skill การสอนวิชาทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการอบรมที่อาจารย์ในระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาสอนวิธีการสอนให้แก่อาจารย์ทั่วไป ในสังกัดของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ และหน่วยวิทยบริการต่าง ๆ เป็นต้น

ในช่วงของการถามคำถาม มีการแลกเปลี่ยนโดยอาจารย์ท่านหนึ่งที่กล่าวว่า พระอรหันต์สุกขวิปัสสโกไม่ได้ฌาน ไม่ได้สมาบัติ จึงไม่สามารถที่จะแสดงฤทธิ์ได้เหมือนกับพระอรหันต์ที่ได้อภิญญา เรื่องตรงนี้ ถ้าฟังก็ดูแล้วก็เหมือนกับใช่ แต่เป็นการเข้าใจผิดที่หนักมากสำหรับผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติเอง ดีแต่ศึกษาตำราอย่างเดียว

พระอริยเจ้าทุกประเภท ไม่ว่าจะสุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ และปฏิสัมภิทัปปัตโต ต้องได้ฌานสมาบัติทั้งสิ้น ถ้าไม่ได้ กำลังก็จะไม่พอในการตัดกิเลส

ถ้าเป็นพระประเภทสุกขวิปัสสโกในระดับโสดาบันและสกทาคามี อย่างน้อยต้องทรงปฐมฌานละเอียดได้

ถ้าตั้งแต่ระดับอนาคามีหรือว่าพระอรหันต์ ต้องทรงฌาน ๔ ละเอียดได้ ไม่อย่างนั้นกำลังจะไม่เพียงพอในการตัดกิเลสในระดับนั้น ๆ

เพียงแต่ว่าพระอรหันต์สุกขวิปัสสโกนั้น บางทีท่านทรงฌาน ท่านเองก็ยังไม่รู้ตัว เพราะว่าพิจารณาวิปัสสนาญาณไปเรื่อย ๆ สภาพจิตดิ่งลึกลงเป็นสมาธิ จึงทรงฌานโดยอัตโนมัติ เมื่อกำลังเพียงพอ ก็ตัดกิเลสในระดับที่ท่านพิจารณาอยู่ได้ เรียกง่าย ๆ ว่าทรงฌานเหมือนกับไม่ได้ทรงฌาน เพราะว่าแม้แต่ท่านเอง บางทีก็ไม่รู้ตัวว่าท่านกำลังทรงฌานอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-10-2022 เมื่อ 20:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา