ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 04-05-2022, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประการหนึ่งก็คือว่า พระอุปัชฌาย์อาจารย์นั้น ท่านอาจจะสั่งสอนแค่ผิวเผิน ไม่ได้ตอกย้ำอย่างจริงจัง เหมือนอย่างกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ท่านได้สอนกับลูกศิษย์ว่า เมื่อบวชไปแล้ว ให้ระวังเสือ ๒ ตัวเป็นอย่างยิ่ง เสือ ๒ ตัวนี้ก็คือ สตรี ๑ กับ สตางค์ ๑

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเพศตรงข้ามนั้น ถือว่าเป็นศัตรูอย่างยิ่งของพรหมจรรย์ ถ้าหากว่าใกล้ชิดสนิทสนมไป โดยที่ตนเองยังไม่สามารถที่จะรักษากำลังใจให้มั่นคงได้ ก็จะเกิดอันตรายโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าจะมีการเผลอใจ

อันดับแรกก็อาจจะแค่คำพูดหรือความคิด แต่ต่อไปถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเปิดโอกาสให้ ก็จะเป็นการกระทำ แล้วก็เกิดความเสียหายขึ้นมาได้อย่างที่เห็นอยู่ เพราะว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดกันโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีเจตนาที่ดีขนาดไหนก็ตาม การอนุเคราะห์สงเคราะห์ก็ต้องมีขอบเขต

ดังที่พระอานนท์ได้ทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "พระภิกษุในธรรมวินัยนี้จะปฏิบัติต่อมาตุคามอย่างไรถึงจะเหมาะสม ?"

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ไม่รู้ไม่เห็นได้เลยเป็นดี"

พระอานน์ทูลถามว่า "ถ้าหากว่าจำเป็นต้องรู้เห็นเล่า ?" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ถ้าหากว่าต้องรู้เห็นก็อย่าพูดด้วย"

"ถ้าหากว่าจำเป็นต้องพูดด้วยเล่า ?" "ถ้าหากว่าจำเป็นต้องพูดด้วยก็ให้พูดโดยธรรม" ก็คืออย่าพูดชักชวนไปในทางโลก ซึ่งมีแต่จะทำให้ฟุ้งซ่านหนักเข้าไปอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2022 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา