อีกประการหนึ่งก็คือว่า พระอุปัชฌาย์อาจารย์นั้น ท่านอาจจะสั่งสอนแค่ผิวเผิน ไม่ได้ตอกย้ำอย่างจริงจัง เหมือนอย่างกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ท่านได้สอนกับลูกศิษย์ว่า เมื่อบวชไปแล้ว ให้ระวังเสือ ๒ ตัวเป็นอย่างยิ่ง เสือ ๒ ตัวนี้ก็คือ สตรี ๑ กับ สตางค์ ๑
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเพศตรงข้ามนั้น ถือว่าเป็นศัตรูอย่างยิ่งของพรหมจรรย์ ถ้าหากว่าใกล้ชิดสนิทสนมไป โดยที่ตนเองยังไม่สามารถที่จะรักษากำลังใจให้มั่นคงได้ ก็จะเกิดอันตรายโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าจะมีการเผลอใจ
อันดับแรกก็อาจจะแค่คำพูดหรือความคิด แต่ต่อไปถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเปิดโอกาสให้ ก็จะเป็นการกระทำ แล้วก็เกิดความเสียหายขึ้นมาได้อย่างที่เห็นอยู่ เพราะว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดกันโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีเจตนาที่ดีขนาดไหนก็ตาม การอนุเคราะห์สงเคราะห์ก็ต้องมีขอบเขต
ดังที่พระอานนท์ได้ทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "พระภิกษุในธรรมวินัยนี้จะปฏิบัติต่อมาตุคามอย่างไรถึงจะเหมาะสม ?"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ไม่รู้ไม่เห็นได้เลยเป็นดี"
พระอานน์ทูลถามว่า "ถ้าหากว่าจำเป็นต้องรู้เห็นเล่า ?" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ถ้าหากว่าต้องรู้เห็นก็อย่าพูดด้วย"
"ถ้าหากว่าจำเป็นต้องพูดด้วยเล่า ?" "ถ้าหากว่าจำเป็นต้องพูดด้วยก็ให้พูดโดยธรรม" ก็คืออย่าพูดชักชวนไปในทางโลก ซึ่งมีแต่จะทำให้ฟุ้งซ่านหนักเข้าไปอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2022 เมื่อ 03:31
|