ดูแบบคำตอบเดียว
  #143  
เก่า 22-12-2018, 19:50
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 444
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,920 ครั้ง ใน 1,596 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับผู้สูงอายุที่มาทำบุญว่า “มาสี่ขาแล้วนะ ..(หัวเราะ).. เขาว่า “เมื่อเด็กมีสี่ขา เดินไปมาร้องแง ๆ” ใช่ไหม ?

ตอนเด็กมี ๔ ขา หนุ่มสาวมี ๒ ขา แก่ไปมี ๓ ขา ก็พวกเรานี่แหละ ตอนแก่มีไม้เท้าเพิ่มมาอีกขาหนึ่ง แต่สมัยนี้วอล์คเกอร์บางรุ่นก็มีเกิน ๔ ขานะ บางท่านมีวอล์กเกอร์แบบล้อมรอบตัวเลย ถึงเวลาก็เปิดคอกเดินเข้าไป แล้วก็ค้ำรอบข้าง ไม่มีลูกหลานช่วยก็ต้องอาศัยวอล์คเกอร์ ต้องอาศัยไม้เท้าเอา

มีพระบาลีอยู่บทหนึ่งแปลเป็นไทยว่า “ไม้เท้าของผู้เฒ่า ดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู” โห..แสบมาก เพราะว่ามีพราหมณ์อยู่ท่านหนึ่ง มอบสมบัติทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลูก ปรากฏว่าลูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ยอมเลี้ยง ต้องไปเป็นขอทาน ไปเจอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เข้าไปขอความเมตตาให้ช่วยสงเคราะห์ด้วย เพราะว่าลูกไม่เลี้ยง พระองค์ท่านบอกว่า จะให้คาถาไปบทหนึ่ง ให้ไปยืนประกาศกลางตลาด ถ้าหากว่ามีคนสนใจมาก ๆ แล้วถามว่าเพราะเหตุใดถึงว่าแต่พระคาถานี้ ? ก็ให้เล่าเรื่องให้เขาฟัง แล้วท่านก็ให้คาถาไปเป็นภาษาบาลี แปลเป็นไทยว่า “ไม้เท้าของคนเฒ่า ดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู”

พอพูดไป ๆ คนมาล้อมมากขึ้น ๆ มีคนถามว่าหมายความว่าอย่างไร ? แกก็เล่าให้ฟังว่ามอบสมบัติให้แล้วลูกไม่ยอมเลี้ยง ไล่ออกจากบ้านมา เรื่องก็ลือไปทั้งเมือง ท้ายสุด..ลูกโดนคนตราหน้าว่าอกตัญญู ทนอยู่ไม่ได้ ต้องมารับพ่อกลับไปเลี้ยง ดังนั้น..บางคนเขาบอกว่า ถ้าหากว่าลูกเต้าไม่กตัญญูให้ท่องคาถานี้ ..(หัวเราะ).. ถ้าจะเอาขลังอย่างเดียวก็ลองดู แต่อาตมาว่าปฏิบัติจะดีกว่า”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2018 เมื่อ 01:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา