ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 20-05-2023, 01:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,873 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่ท่านทั้งหลายจะปรับสมาธิให้เป็นสมาธิใช้งาน ก็คือท่านต้องภาวนาในขณะที่เคลื่อนไหวได้ วิธีฝึกฝนที่ดีที่สุดก็คือเดินจงกรมไปพร้อมกับการภาวนา เพียงแต่ว่าระยะแรก ท่านอย่าเพิ่งจับลมหายใจครบ ๓ ฐาน เพราะว่าลมหายใจครบ ๓ ฐานเมื่อไร จะเข้าสู่ระยะของปฐมฌานหยาบ ร่างกายกับจิตของท่านเริ่มแยกเป็นคนละส่วน เราจะบังคับให้ร่างกายก้าวเดินไม่ได้..!

ดังนั้น..ท่านต้องจับลมหายใจแค่ฐานใดฐานหนึ่ง อย่างเช่นว่าเฉพาะจมูก หรือว่าเฉพาะที่ท้อง แล้วก็กำหนดภาวนาพร้อมกับเดินไป จะเป็นก้าวซ้าย "พุท" ก้าวขวา "โธ" ก็ได้ เอาความรู้สึกของเราเคลื่อนตามเท้าของเราไป "พุท" ซ้ายลง "
โธ" ขวาลง แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งท่านมีความคล่องตัว สามารถที่จะกำหนดได้โดยไม่ต้องระมัดระวังมากแล้ว ก็เพิ่มการกำหนดลมฐานที่ ๒ ลงไป อย่างเช่นว่าจมูกกับอก แล้วลองเดินดู ถ้าหากว่าก้าวไม่ออกหรือก้าวช้าลง เราก็ใช้วิธีก้าวช้า ๆ พร้อมกับกำหนดภาวนาไป จะช้ายิ่งกว่าเต่าคลานก็ปล่อยให้ช้าไป พอเราทำได้คล่องตัวแล้วก็จะค่อย ๆ เร็วขึ้นไปเอง

เมื่อสามารถกำหนดลมหายใจ ๒ ฐาน พร้อมกับการเดินจงกรมได้แล้ว มีความคล่องตัว เคลื่อนไหวได้สะดวก ท่านก็เริ่มกำหนดลม ๓ ฐาน พร้อมกับการเดินจงกรม ก็คือรู้ลมว่าเข้าที่จมูก ผ่านกึ่งกลางอก ลงไปสุดที่ท้อง ลมออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก ถ้าหากว่าใหม่ ๆ ก็จะยืนแข็งทื่อ ก้าวไม่ออก เพราะว่ายังขาดความชำนาญอยู่ ต้องพยายามฝืนตนเอง จนรู้สึกเหมือนกับหลุดจากสภาวะผีอำ ก็คือค่อย ๆ เคลื่อนไหวช้า ๆ ได้ เราก็ค่อย ๆ ย่องของเราไป

จนกระทั่งมีความคล่องตัวมากขึ้น สมาธิไม่คลายไปไหนแม้ว่ากำลังเคลื่อนไหว เราก็สามารถที่จะก้าวได้เร็วขึ้น จนกระทั่งสามารถภาวนาจับลมหายใจ ๓ ฐานพร้อมกับการเดินตามปกติได้ เราก็ลองกระทำงานการอื่น ๆ ไปด้วย ถ้าหากว่าสามารถทำงานอื่น อย่างเช่นว่ากวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้าไป พร้อมกับการภาวนาได้ ก็แปลว่าสมาธิของท่านเริ่มใช้งานได้แล้ว

ถ้าหากว่าอยู่ในลักษณะอย่างนี้ สมาธิจิตของท่านก็จะมั่นคงมากขึ้น ถึงเวลา แม้ว่าจะกระทำสิ่งหนึ่งประการใดก็ไม่หลุดหายไปง่าย โอกาสที่เราจะชนะกิเลสก็มีมากขึ้น แต่ก็ต้องคอยระมัดระวังเอาไว้เป็นอย่างสูง เพราะว่าอยู่ในลักษณะของผู้ฝึกหัด ยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เผลอเมื่อไรสติขาด สมาธิหลุด รัก โลภ โกรธ หลง จะมาเป็นฟ้าถล่มดินทลาย ถ้าถึงเวลานั้น ท่านทั้งหลายอย่าไปเสียเวลาคร่ำครวญกับความเสียหายที่เกิดขึ้น หากแต่ว่าโยนทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าทิ้งไปให้หมด แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทันที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2023 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา